รัฐบาลลงทุน โครงการสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ใน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี เพื่อดึงดูดนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ อีกทั้งพื้นที่นี้ยังถูกตั้งเป้าให้เป็นหมุดหมายใหม่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ทั้งการการลงทุน การท่องเที่ยว และสร้างงานสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ เช่น โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา), เมืองการบินภาคตะวันออก ,ท่าเรือนํ้าลึกแหลมฉบัง, ท่าเรือนํ้าลึกมาบตาพุด, ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา
เพื่อไปสู่การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภูมิภาคอาเซียน ช่วยลดต้นทุนโลจิสติกส์และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้แก่ภาคธุรกิจ ส่งเสริมการขยายตลาดและเพิ่มโอกาสทางการค้าการลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยวในหลากหลายมิติ พร้อมทั้งเชื่อมโยงฐานการผลิต ส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมและภาคการส่งออกของจังหวัดทางภาคตะวันออกกับประตูการค้าระหว่างประเทศที่สำคัญ
โดยกรมทางหลวง (ทล.) มีโครงข่ายในเขตพื้นที่อีอีซีที่เปิดให้บริการแล้ว คือ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 7 กรุงเทพ-ชลบุรี-มาบตาพุด ส่วนต่อขยาย ช่วงพัทยา-มาบตาพุด ระยะทางรวม 32 กิโลเมตร วงเงินลงทุนรวม 17,784 ล้านบาท
ทั้งนี้ตามแผนแม่บททางหลวงพิเศษระหว่างเมืองและระบบรางระยะ 20 ปี (ปี2566-2585) ภายใต้การศึกษาแผนพัฒนาโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) และระบบราง (Motorway-Rail Map: MR-MAP) โดยทล.มีแผนพัฒนามอเตอร์เวย์ในพื้นที่อีอีซี ระหว่างปี ปี2566-2585 จำนวน 2 โครงการ วงเงินรวม 220,469 ล้านบาท ประกอบด้วย
1.โครงการมอเตอร์เวย์ M7 ส่วนต่อขยายเชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา ระยะทาง 1.92 กม. วงเงินลงทุน 4,508 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้างและค่าควบคุมงาน 4,400 ล้านบาท และค่าเวนคืน 108 ล้านบาท ปัจจุบัน
2.โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง(มอเตอร์เวย์) ชลบุรี (แหลมฉบัง) - นครราชสีมา รวมระยะทางประมาณ 315 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 215,961 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้างงานโยธา 193,194 ล้านบาท และค่าเวนคืนที่ดิน 22,767 ล้านบาท เบื้องต้นโครงการฯจะแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 ช่วงชลบุรี (แหลมฉบัง)-ปราจีนบุรี ระยะทาง 156 กิโลเมตร วงเงิน 115,366 ล้านบาท ตามแผนจะเริ่มก่อสร้างในปี 2571 และเปิดให้บริการในปี 2577 ขณะที่ระยะที่ 2 ช่วงปราจีนบุรี-นครราชสีมา ระยะทาง 159 กิโลเมตร วงเงิน 148,443 ล้านบาท ตามแผนจะเริ่มก่อสร้างในปี 2581 และเปิดให้บริการในปี 2585
ด้านกรมทางหลวงชนบท (ทช.) มีโครงการที่อยู่ในจังหวัดอีอีซี วงเงินรวม 2,298 ล้านบาท จำนวน 3 โครงการ ประกอบด้วย
นอกจากนี้ยังมี โครงการถนนทางหลวงชนบทสายแยก ทล.7-ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ระยะทาง 10.570 กิโลเมตร วงเงิน 1,499 ล้านบาท ,โครงการถนนทางหลวงชนบทสาย ฉช.3001 แยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 314-ลาดกระบัง จังหวัดฉะเชิงเทรา, สมุทรปราการ ระยะทาง 20.329 กิโลเมตร วงเงิน 3,712 ล้านบาท
รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า สกพอ. และที่ปรึกษาโครงการฯ ได้มีการนำเสนอข้อมูลแนวเส้นทางและรูปแบบระบบขนส่งมวลชนรองของโครงการ โดยโครงการได้ศึกษาโครงข่ายให้มีการเชื่อมโยงการเดินทางระหว่างพื้นที่เมืองใหม่กับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จำนวน 3 แนวเส้นทาง ได้แก่