ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้าจะนำคณะเดินทางไปประเทศจีนเพื่อหารือกับผู้บริหารระดับสูงของภาครัฐและภาคเอกชนจีน จึงมารับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้นำหอการค้าไทย-จีน เกี่ยวกับแนวทางการผลักดันและส่งเสริมการค้าไทย-จีนในด้านต่าง ๆ
ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเน้นย้ำว่า ให้ความสำคัญกับการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับจีน โดยให้รัฐบาลทำงานร่วมกับคณะหอการค้าไทย-จีน เป็นทีมเดียวกันเพื่อส่งเสริมการลงทุน และอำนวยความสะดวกด้านการค้าให้มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้น
นายณรงค์ศักดิ์ พุทธพรมงคล ประธานหอการค้าไทย-จีน กล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลจีนมีนโยบายเปิดกว้างทางการค้า และให้ความสำคัญกับสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ดังนั้น ไทยจึงควรเร่งส่งเสริมการนำสินค้าคุณภาพไทยไปขายยังตลาดจีนให้มากขึ้น โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ซึ่งการเข้าร่วมงานมหกรรมสินค้านำเข้านานาชาติจีน หรือ CIIE ที่จัดขึ้นทุกปี เป็นอีกช่องทางสำคัญที่รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ ควรให้การสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมให้มากขึ้น
อย่างไรก็ดี หอการค้าไทย-จีนมีสมาพันธ์ที่เป็นศูนย์รวมของนักธุรกิจจีนในประเทศไทย มีสมาชิกเป็นสมาคมการค้ากว่า 70 สมาคม จึงเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้เกิดความร่วมมือด้านการค้าไทย-จีนอย่างเป็นรูปธรรม
และการประชุมสมาพันธ์หอการค้าไทย-จีน ซึ่งจะจัดขึ้นในทุก 2 เดือน ก็เป็นเวทีที่จะช่วยเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร เสริมสร้างความเข้าใจระหว่างภาครัฐและเอกชนไทย-จีนได้เป็นอย่างดี
ประเทศไทยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประเทศจีนมาอย่างยาวนานกว่า 2,000 ปี โดยปัจจุบันนี้จีนเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ รวมถึงเป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 1 ของไทยที่มีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงที่สุดเป็นเวลาติดต่อกันถึง 11 ปี ตั้งแต่ปี 2556
โดยในปี 2566 ที่เพิ่งผ่านมานี้ การค้าระหว่างประเทศไทยและจีน มีมูลค่าการค้ารวม 126,279.9 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วน 18% ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของไทย
นอกจากนี้ นักลงทุนจีน ยังเข้ามาลงทุนในประเทศไทย สูงเป็นอันดับ 1 ของนักลงทุนต่างชาติทั้งหมดในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ส่วนมากเป็นการลงทุนด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ,เครื่องจักรและยานยนต์ ,เคมีภัณฑ์และปิโตรเคมี และดิจิทัลและบริการที่มีมูลค่าสูง เป็นต้น