นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิต ร่วมลงนามในข้อตกลงการรับสิทธิตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ระยะที่ 2 หรือ อีวี 3.5 ร่วมกับ 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท ฉางอาน ออโต้ เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และบริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
สำหรับการเข้าร่วมมาตรการ กรมสรรพสามิตได้กำหนดเงื่อนไขให้ผู้เข้าร่วมมาตรการอีวี 3.5 จะต้องทำการผลิตรถยนต์เพื่อชดเชยการนำเข้าภายในปี 69 ในอัตราส่วน 1 ต่อ 2 ของจำนวนนำเข้าในช่วงปี 67 – 68
คือ นำเข้า 1 คัน ผลิตชดเชย 2 คัน และผลิตชดเชยการนำเข้าภายในปี 70 ในอัตราส่วน 1 ต่อ 3 คือ นำเข้า 1 คัน ผลิตชดเชย 3 คัน
“คาดการณ์การนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้าจากมาตรการอีวึ 3.5 ประมาณ 175,000 คัน ในปี 67-68 ส่งผลให้เกิดการผลิตรถยนต์ภายในประเทศ ประมาณ 350,000 – 525,000 คัน ภายในปี 2570 โดยมียอดประมาณการเงินอุดหนุนในมาตรการอีวี 3.5 อยู่ที่ 34,060 ล้านบาท”
อย่างไรก็ดี มาตรการอีวี 3.5 ในครั้งนี้ จะเป็นการช่วยส่งเสริมและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันควบคู่กับการสร้างโอกาสในการเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบไปสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า รวมถึงสนับสนุนและส่งเสริมในเรื่องความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตามยุทธศาสตร์กรมสรรพสามิต ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศด้วยภาษีสรรพสามิต
ทั้งนี้ บริษัทฯ ที่เข้าร่วมมาตรการ จะได้รับการสนับสนุนจากกรมสรรพสามิต อาทิ รถยนต์นั่ง ราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท จะได้รับสิทธิประโยชน์ เงินอุดหนุน 25,000-100,000 บาท ลดอัตราอากรขาเข้าไม่เกิน 40%ลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2% ในปี 67 - 70 เป็นต้น