นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมธนารักษ์ ไปศึกษาและสำรวจที่ดินราชพัสดุทั่วประเทศ เพื่อทบทวนราคาเช่าที่ดินราชพัสดุให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะที่ดินราชพัสดุให้เช่าเชิงพาณิชย์
ทั้งนี้ เนื่องจากปัจจุบันมีหลายพื้นที่ปล่อยร้าง ไม่มีการเช่า เนื่องจากอัตราค่าเช่าแพงเกินไป เปิดประมูลไปหลายครั้ง ก็ไม่มีใครมาประมูลหรือมาเช่าใช้ที่ดิน ขณะที่บางพื้นที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ ทำเลดี น่าจะสร้างรายได้เข้ารัฐมากกว่าที่ได้รับ แต่อัตราค่าเช่าถูกเกินความเป็นจริง
ส่วนที่ดินราชพัสดุ เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยเช่า เพื่อเป็นที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ก็ต้องดำเนินการดูแลเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ในบางพื้นที่ก็ได้ดำเนินการไปบางส่วนแล้ว ด้วยการนำที่ราชพัสดุ จากเดิมให้กองทัพบกเช่า ทางกองทัพบกส่งคืนแล้วนำไปให้ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียง ซึ่งไม่มีที่ดินทำกิน ได้เช่าที่ดินไปประกอบอาชีพในราคาที่ถูก เป็นต้น
“ที่ดินราชพัสดุทั่วประเทศ มีหลายแห่ง ไม่ใช้ประโยชน์ ส่วนใหญ่อยู่ในหน่วยงานราชการ ดังนั้นกรมธนารักษ์ ต้องเจรจาประสานงาน หากไม่มีการใช้ประโยชน์ ก็ต้องขอคืนแล้วนำมาใช้ประโยชน์ ให้ประชาชน ที่ไม่มีที่ดิน ได้มีที่ดินทำกิน จะเป็นในลักษณะเช่าราคาถูก ระยะเวลากี่ กรมธนารักษ์ ต้องไปดำเนินการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อรัฐและประชาชน”
ส่วนปัญหาที่ดินหมอชิต 1 หรือ หมอชิตเก่า นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ได้รับทราบปัญหาเช่นกัน แต่เป็นปัญหาที่คาราคาซังมานานมาก ต้องขอเวลาในการศึกษาในรายละเอียด รวมถึงหารือกับหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อมูลให้รอบด้าน จึงไม่สามารถให้รายละเอียดเรื่องที่ดินหมอชิต 1 ได้ว่าจะดำเนินการใดกับพื้นที่ดังกล่าวได้
“เรื่องที่ดินหมอชิต1ไม่ได้เป็นเรื่องเร่งด่วน ต้องเร่งแก้ปัญหา เพราะมีอีกหลายเรื่องที่ต้องดำเนินการ เพียงแต่ต้องศึกษาและหาข้อมูลให้รอบด้าน ก่อนจะดำเนินการ ปัญหาสะสมมานานและคาราคาซัง กับคู่สัญญา จำเป็นต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหาเป็นขั้นเป็นตอน”