วันนี้ (23 มกราคม 2567) ที่จังหวัดระนอง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจร จังหวัดระนอง ว่า ที่ประชุมครม.สัญจร เห็นชอบข้อเสนอของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน (จังหวัดกระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล) จำนวน 18 โครงการ วงเงินรวม 552 ล้านบาท โดยจะใช้งบประมาณปี 2566 ไปพลางก่อน
ทั้งนี้จากการตรวจสอบรายละเอียดข้อเสนอกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ซึ่งผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน นั้น เดิมทีที่ประชุมได้มีข้อสรุปจะเสนอโครงการของพื้นที่ รวมทั้งสิ้น 20 โครงการ วงเงินรวม 797 ล้านบาท ต่อที่ประชุมครม.สัญจร วันนี้ พิจารณา
แต่เมื่อถึงการประชุม ครม.สัญจร วันนี้แล้ว ที่ประชุมพิจารณา และได้ตัดโครงการของทางภาคเอกชนลง 2 โครงการ นั่นคือ โครงการยกระดับและพัฒนาศักยภาพระบบการแพทย์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน จังหวัดกระบี่ 70 ล้านบาท และ โครงการท่าเรือมาเนาะห์+ช่องหลาด เกาะยาวใหญ่น้อยเพื่อการท่องเที่ยว จังหวัดพังงา 175 ล้านบาท รวม 245 ล้านบาท ทำให้วงเงินข้อเสนอของภาคเอกชนเหลือเพียง 202 ล้านบาทเท่านั้น
ด้านนายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ระบุว่า การตัด 2 โครงการของทางภาคเอกชนไปนั้น ไม่ใช่ว่าเอกชนจะไม่ได้ทำโครงการ แต่จากการตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงบประมาณ พบว่า ทั้ง 2 โครงการ ได้ทำข้อเสนอเข้ามาเพื่อขอใช้งบประมาณปี 2567-2568 แล้ว จึงไม่ได้ใช้งบประมาณ 2566
สำหรับโครงการสำคัญเพื่อพัฒนาภาคใต้อันดามัน 6 จังหวัด ทั้งหมด 18 โครงการ วงเงิน 552 ล้านบาท แบ่งเป็น
สำหรับรายละเอียดโครงการสำคัญที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จใน 1 ปี รวม 13 โครงการ วงเงิน 350 ล้านบาท แยกเป็นรายจังหวัด ดังนี้
กลุ่มจังหวัดอันดามัน 2 โครงการ คือ
จังหวัดภูเก็ต 2 โครงการ คือ
จังหวัดกระบี่ 1 โครงการ คือ
จังหวัดตรัง 2 โครงการ คือ
จังหวัดพังงา 2 โครงการ คือ
จังหวัดระนอง 1 โครงการ คือ
จังหวัดสตูล 3 โครงการ คือ
ส่วนรายละเอียดโครงการที่ภาคเอกชนเสนอทั้ง 5 โครงการ ประกอบด้วย