จากกรณี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดทำโครงการ THAILAND SOFT POWER X GUINNESS WORLD RECORDS™ CHALLENGE โดยนำเสนอ Soft Power ของไทย สู่การจดบันทึกสถิติโลก ของ Guinness World Records
ทั้ง การกินปาท่องโก๋มากที่สุด การใส่นวมต่อยลูกโป่งแตกมากที่สุด การกินป๊อบคอร์นได้เยอะที่สุด การใส่กางเกงช้างมากที่สุด และการใส่หน้ากากผีตาโขนได้มากที่สุด นั้น
ล่าสุดจากการตรวจสอบข้อมูลการดำเนินโครงการดังกล่าว ผ่านแหล่งข้อมูลประกาศการจัดซื้อจัดจ้างของ ททท. พบว่า ททท. ได้มีการแจ้งแผนการจัดซื้อจัดจ้างโครงการดังกล่าวเอาไว้เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2566 โดยได้ระบุชื่อโครงการ Soft Power Guinness World Records ซึ่งมีงบประมาณโครงการรวมกว่า 15 ล้านบาท
พร้อมทั้งได้ประกาศราคากลาง โดยแสดงวงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรรและรายละเอียดค่าใช้จ่าย คือ ชื่อโครงการจ้างจัดกิจกรรม Soft Power Guinness World Records โดยมีหน่วยงานเจ้าของโครงการ คือ กองเลขานุการและวิเทศสัมพันธ์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย วงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร 15 ล้านบาท และมีวันที่กำหนดราคากลาง (ราคาอ้างอิง) ณ ธันวาคม 2566 เป็นเงิน 14,995,515 บาท
สำหรับการจัดโครงการ Soft Power Guinness World Records นั้น ที่ผ่านมา ททท. ระบุรายละเอียดว่า ททท. ได้ร่วมกับ GUINNESS WORLD RECORDS™ จัดการแข่งขันใน 5 หัวข้อที่สุดของโลก ได้แก่
โดยการแข่งขันแต่ละรายการได้เลือกเอาสินค้าท่องเที่ยวและ Soft Power ซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่างชาติมานำเสนอ อาทิ ปาท่องโก๋ ได้ติดอันดับ 1 ใน 5 ขนมสตรีทฟู้ดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลกจาก TasteAtlas กางเกงช้างเป็นที่รู้จักและเป็นของฝากยอดนิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ มวยไทยเป็นกีฬาซึ่งมีชื่อเสียงในระดับโลก และเทศกาลผีตาโขนซึ่งเป็นศิลปวัฒนธรรมเฉพาะถิ่นที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
สำหรับกิจกรรมจะจัดขึ้นในวันที่ 21 – 27 กุมภาพันธ์ 2567 ณ พาร์คพารากอน สยามพารากอน แบ่งออกเป็นรอบ รอบละ 10 นาที หมุนเวียนตามลำดับ ได้แก่ กินปาท่องโก๋มากที่สุด (ผู้แข่งขันรอบละ 10 คน) ใส่นวมต่อยลูกโป่งแตกมากที่สุด (ผู้แข่งขันรอบละ 3 คน) กินป๊อบคอร์นได้เยอะที่สุด (ผู้แข่งขันรอบละ 10 คน) ใส่กางเกงช้างมากที่สุด (ผู้แข่งขันรอบละ 10 คน) ใส่หน้ากากผีตาโขน ได้มากที่สุด (ผู้แข่งขันรอบละ 10 คน)
โดยมีลำดับการจัดกิจกรรมในแต่ละวัน ดังนี้
ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมแข่งขันผ่านเว็บไซต์ของโครงการ หรือสมัครที่จุดลงทะเบียนภายในงาน โดยสามารถลงแข่งขันได้มากกว่า 1 รายการ และเลือกลงแข่งขันในแต่ละหัวข้อได้ไม่เกิน 3 ครั้ง
สำหรับผู้เข้าแข่งขันที่ชนะการแข่งขันในลำดับที่ 1 - 10 ของแต่ละหัวข้อจะได้รับของรางวัล ดังนี้