วันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ มีมติรับทราบการแต่งตั้งประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และกรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิ ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จำนวน 11 คน
สำหรับบอร์ดสศช. ที่ตั้งขึ้นทั้ง 11 คน ในตำแหน่งประธานสภา และ กรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิ มีดังนี้
สำหรับประวัติของ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ผ่านมานับเป็นหนึ่งในผู้ที่มีประสบการณ์ด้านเศรษฐศาสตร์และการเงิน เป็นบุตรชายของ นายเชาวน์ สายเชื้อ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์(เกียรตินิยม) ม.วิกตอเรีย ประเทศนิวซีแลนด์ ระดับปริญญาโทเศรษฐศาสตร์ ม.ฟิลิปปินส์ และระดับปริญญาเอก ด้านเศรษฐศาสตร์ ม.ฮาวาย สหรัฐอเมริกา
โดยประวัติการทำงานก่อนหน้านี้ เคยนั่งตำแหน่งสำคัญ ๆ ทั้ง กรรมการ กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, ผู้ทรงคุณวุฒิในคณะอนุกรรมการจัดการลงทุน กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, กรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการ (หัวหน้าสายงานวิจัย) บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน), กรรมการ คณะกรรมการนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์, ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมการจัดการลงทุน กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, กรรมการข้าราชการตำรวจ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ และ กรรมการ คณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ
พร้อมกันนี้ ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ยังเคยเป็นหนึ่งในทีมที่ปรึกษาของคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยในช่วงของการสู้ศึกเลือกตั้งด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ยังมีกระแสข่าวด้วยว่า พรรคเพื่อไทยได้วางตัวในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพราะเห็นว่า มีคุณสมบัติที่เหมาะสม
ส่วนกลไกการทำงาน ของ สศช. ตามพระราชบัญญัติสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พ.ศ. 2561 ได้แบ่งกลไกการดำเนินงานของ สศช. ออกเป็น 2 ระดับ คือ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ องค์ประกอบ ประกอบด้วยประธานสภา 1 คน และกรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิอีกไม่เกิน 15 คน ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากบุคคล ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญหรือมีประสบการณ์ในทางเศรษฐกิจและสังคมตามที่คณะรัฐมนตรีเสนอ จำนวน 7 คน และกรรมการสภาโดยตำแหน่ง 7 คน ประกอบด้วย
ปลัดกระทรวงการคลัง เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นกรรมการสภาและเลขานุการ และให้เลขาธิการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่สำนักงานไม่เกิน 2 คน เป็นผู้ช่วยเลขานุการ
ทั้งนี้ ประธานสภา หรือกรรมการสภาผู้ทรงคุณวุฒิ มีวาระดำรงตำแหน่งคราวละ 4 ปี ซึ่งหลังจากพ้นตำแหน่งแล้วอาจได้รับแต่งตั้งอีกได้ แต่จะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 วาระ ไม่ได้
ส่วนอำนาจหน้าที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จะกำหนดกรอบทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และสภาพการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมทั้งของประเทศและของโลก รวมทั้งจัดทำร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวมทั้งเสนอแนะ ให้คำปรึกษา และให้ความเห็นเกี่ยวกับการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งการแก้ไขเพิ่มเติมหรือปรับปรุงกฎหมาย กฎหรือระเบียบที่ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในด้านต่าง ๆ ต่อนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี
รวมถึงเสนอแนะ ให้คำปรึกษา และให้ความเห็นเกี่ยวกับแผนงานและโครงการพัฒนาเพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และพิจารณาข้อเสนองบประมาณประจำปีของรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมิใช่บริษัทมหาชนจำกัด สำหรับสินทรัพย์ถาวรที่เพิ่มขึ้นเพื่อใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งจำนวนเงินที่ใช้จ่ายเพื่อการนี้ และนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบ
พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมอบหมาย และสามารถเชิญบุคคลหนึ่งบุคคลใดมาให้ข้อเท็จจริง คำอธิบาย ความเห็น หรือคำแนะนำได้เมื่อเห็นสมควร