วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2567) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยในงานสัมมนาด้านพลังงานประจำปีระดับประเทศ THAILAND ENERGY EXECUTIVE FORUM เรื่องจุดเปลี่ยนพลังงานไทยสู่ความยั่งยืน จัดโดย สมาคมวิทยาการพลังงาน ร่วมกับสถาบันวิทยาการพลังงาน
โดยระบุว่า ราคาพลังงานเป็นเรื่องสำคัญ ปัจจุบันหลายบริษัทใหญ่ด้านดาต้าของโลก ทั้งกูเกิล ไมโครซอฟ หัวเว่ย หรือ AWS ที่รัฐบาลดึงเข้ามา และกำลังจะเซ็นการลงทุนมูลค่าหลายแสนล้านบาท ซึ่งเรื่องที่เขาให้ความสำคัญ คือ Cloud First และอีกเรื่องราคาพลังงาน ซึ่งไทยต้องสร้างขีดความสามารถแข่งขันกับเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้แม้ปัจจุบันประเทศไทยได้เปรียบประเทศเพื่อนบ้านในเรื่องของพลังงาน แต่เรื่องของค่าไฟยังคงเป็นปัญหาอยู่ โดยรัฐบาลนี้ก็ได้เจรจาอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านความพร้อม หรือด้านการหาแหล่งสำรอง โดยเรื่องราคาพลังงานเป็นเรื่องที่มีกลไกต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกันหลายอย่าง และคงจะเมินเฉยต่อกลไกตลาดไม่ได้ เพราะจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นที่ประเมินค่าไม่ได้ โดยเฉพาะการทุบราคาพลังงานลงโดยไม่สนใจกลไกตลาด สิ่งนี้จะทำให้เกิดรัฐประหารทางเศรษฐกิจขึ้นได้
“การทุบโดยไม่ต้องสนใจกลไกตลาด จะทำให้เกิดรัฐประหารทางเศรษฐกิจ ซึ่งอาจจะได้ค่าไฟถูกไม่กี่วัน ก่อนจะต้องควักเอาของประชาชนมาจ่าย การลงทุน การส่งออก การจ้างงาน ผลทางเศรษฐกิจ อยู่ในใจของคนทั้งโลกไปนานนับปี ดังนั้นทุกคนต้องช่วยกัน ไม่ใช่มีกลไกสนับสนุนทางด้านภาษีที่ดีแล้ว หรือมีมาตรการต่างๆ ให้คนมาอยู่ในประเทศไทยอย่างมีความสุขแล้ว แต่ค่าพลังงานก็มีความสำคัญเช่นกัน” นายกฯ กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวว่า รัฐบาลจะหาทางสนับสนุนการพัฒนาพลังงานสะอาด เพื่อเป็นหนึ่งช่องทางในการดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศให้มาลงทุนที่ไทย และหากมองในระยะยาว เชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพสูง มีเสถียรภาพทางด้านการเงินที่มั่นคง พร้อมดึงดูดนักลงทุนจากทั่วโลกเข้ามาตั้งฐานผลิตในประเทศไทย
ขณะเดียวกันรัฐบาลยังให้ความสำคัญการการส่งเสริมการใช้พลังงานในภาคการเกษตรภายในประเทศด้วยล่าสุดในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ผ่านมา ได้มีข้อสั่งการในการช่วยเหลือลดค่าไฟสำหรับเครื่องสูบน้ำการทำนา เนื่องจากการเกษตรถือเป็นหัวใจสำคัญ โดยรัฐบาลได้สนับสนุนการทำตามหมู่บ้านต่างๆ เพื่อให้ค่าไฟถูกลง และเกษตรกรใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ