นายจิรพิสิษฐ์ รุจน์เจริญ หรือ โจ ประธาน YEC (Young Entrepreneur Chamber of Commerce) หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ผู้ผลักดันกางเกงแมวให้มีชื่อเสียง เปิดเผยที่มาของกางเกงแมว ว่า จุดเริ่มต้นมาจากแนวคิดที่โครงการของหอการค้าร่วมกับการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดในการจัดประกวดออกแบบลาย KORAT MONOGRAM (โคราช โมโนแกรม) สัญลักษณ์เมืองโคราช จนได้ผู้ชนะการแข่งขันและมอบเป็นกรรมสิทธิ์ของจังหวัดในการใช้ประโยชน์ ส่วนผู้ออกแบบได้เงินรางวัลเป็นค่าตอบแทน ซึ่งคนออกแบบเป็นชาวโคราช
จากนั้นหอการค้านำมาต่อยอดด้วยความคิดที่ว่าเอาสิ่งที่มีอยู่มาทำให้จับต้องได้ โดยล้อมาจากกางเกงช้างที่คนรู้จักเป็นอย่างดี ด้วยลายที่เป็นเอกลักษณ์ และราคาไม่แพง จากนั้นมีการต่อยอดเพิ่มมูลค่าให้สินค้ามากขึ้น ทำให้หลายคนหันมายึดอาชีพผลิตกางเกงแมวขายจำนวนมากราวกับดอกเห็ด
นายจิรพิสิษฐ์ กล่าวอีกว่า สินค้าไม่ใช่ Soft power แต่การสร้างการรับรู้ การที่คนไทย หรือคนทั่วโลกรู้จักโคราชเพิ่มขึ้น จะผ่านตัวสินค้าหรือผ่านอะไรก็ได้ นั่นต่างหากคือ Sofe power ที่แท้จริง แม้แต่การดันให้กางเกงแมวเข้าไปสู่โลกออนไลน์ด้วยการเป็น “Skin Item” ในเกมส์ชื่อดัง “Free Fire”ซึ่งมีมูลค่าทางการตลาดได้สูงถึง 363 ล้านบาทนั้น โอกาสที่จะเกิดขึ้นแบบนี้ในประเทศไทยถือว่ายากมาก แต่กางเกงแมวโชคดีมาก เพราะเป็นการต่อยอด Soft power ได้มากเกินความคาดหมาย
“แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้กางเกงแมวมีทางไปข้างหน้า คือ จากจุดเริ่มต้น ที่เอกชนคิดไอเดีย ทำให้เป็นรูปธรรม จับต้องได้ สร้างมูลค่าและรายได้ ขณะที่รัฐบาลให้การสนับสนุน ทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ และปัจจุบันมีหลายจังหวัดที่พยายามดึงความเอกลักษณ์ของท้องถิ่น อาจจะเป็นสัตว์หรือเครื่องปั้นดินเผาหรืออะไรก็ได้ นำมาพัฒนาให้เป็นสินค้าให้พูดถึงอยู่เรื่อย ๆ จนเกิดเป็นกระแส”
อย่างไรก็ตามสิ่งท้าทายที่เกิดขึ้นจากนี้ไปคือโคราชจะทำอย่างไรกับชื่อเสียงที่เราได้มาในครั้งนี้ ต้องหาอะไรที่ต่อยอดจากแมวที่ทำให้คนรู้จักชาวโคราช หรือการสร้างโคราชให้เป็นเมืองที่คนพูดถึง คือ “ Korat Cat” ตอนนี้ตนกำลังทำงานอาร์ตทอย (Art Toy) ใช้ชื่อ “แมวเมื่อย” เป็นสินค้าที่นำเสนอทุกอิริยาบถของแมว แต่จะไม่ใช่หน้าแมวยิ้ม ซึ่งตนเองได้จดลิขสิทธิ์สินค้าตัวนี้ไว้แล้ว อยากให้ทุกคนเห็นตัวอย่างการต่อยอดที่เป็นรูปธรรม ส่วนใครจะมีไอเดียต่อจากสิ่งที่ตนทำอยู่ก็ทำได้เลย
นายจิรพิสิษฐ์ กล่าวอีกว่า ล่าสุดตนได้รับการประสานงานจากญี่ปุ่นติดต่อเข้ามาเพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือในการต่อยอดสินค้าท้องถิ่นร่วมกัน เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มี Soft power จากความเป็นพื้นถิ่นมาก เขามี “คุมะมง” ที่เมืองคุมาโมโตะ ที่ใช้คาเรกเตอร์ของหมีควายแก้มแดงมาเป็นทูตการท่องเที่ยว การพูดคุยครั้งนี้เราอยากจะต่อยอดและเรียนรู้จากประเทศที่เขาแข็งแกร่งในเรื่องนี้มาก่อน
สิ่งที่จะทำให้ Soft power ประสบความสำเร็จได้ ต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือของหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยรัฐบาลจะต้องร่วมมือกันในการผลักดัน สิ่งหนึ่งที่จะต้องคำนึงถึงคือ การทำให้ Soft power ประสบความสำเร็จได้ ต้องขึ้นอยู่กับการทำให้คนรับรู้และจดจำ นั้นคือ การพูดซ้ำ ๆ บ่อย ๆ จนคนรู้จัก และไม่จำเป็นต้องคิดเรื่องใหม่ ๆ ขึ้นมาแต่เป็นการต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่ แล้วเท่านั้น
ขณะที่ นายจีระศักดิ์ ศรีเพชร พาณิชย์จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่าหลังจากกระแส “กางเกงช้าง”ถูกต่างชาตินำไปจดลิขสิทธิ์ ล่าสุดนายสยาม สิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้มอบหมายให้ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา ยื่นเรื่องของจดลิขสิทธิ์ลาย “โมโนแกรมแมว” ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะนี้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครราชสีมาได้ยื่นเรื่องไปยังกรมทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อยื่นเป็นเจ้าของสิทธิ์ลายกางเกงแมวแล้ว คาดว่าใช้เวลา 2-3 เดือนในการดำเนินการเรื่อง อย่างไรก็ตามทางจังหวัดไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ที่จะนำลายดังกล่าวไปใช้เพื่อเกิดประโยชน์ทางการค้า แต่หากเป็นต่างประเทศที่จะนำลายดังกล่าวไปทำต้องพูดคุยในรายละเอียดก่อน
ยอมรับว่าขณะนี้ประชาชนรู้จักกางเกงแมว และมีความต้องการมากขึ้น ร้านค้าใหม่ที่ขายเฉพาะกางเกงแมวเกิดขึ้นหลายร้าน แม้แต่ร้านค้าเดิมที่มีอยู่ก็จะนำกางเกงแมวไปขาย รวมทั้งผู้ประกอบการผลิตผ้าไหมในโคราชยังนำลายแมวไปใช้ ซึ่งทางจังหวัดสนับสนุนให้ข้าราชการสวมใส่ผ้าไทยลายแมวอยู่แล้ว ล่าสุดทาง องค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ได้จัดการแข่งขันกีฬาเชื่อมความสัมพันธ์กับเหล่าศิลปินดาราก็มีการสวมใส่เสื้อแมวเพื่อเป็นการโปรโมทช่วยจังหวัดอีกทางหนึ่งด้วย