“บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ใช้สิทธิผ่านแอปถุงเงิน ต้องสแกนหน้า บัญชีกลางย้ำ

25 มี.ค. 2567 | 05:06 น.
อัปเดตล่าสุด :25 มี.ค. 2567 | 05:07 น.

กรมบัญชีกลางย้ำ ผู้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐผ่านแอปฯ ถุงเงิน ต้องสแกนใบหน้า ป้องกันการสวมสิทธิ แนะวิธีร้านค้าแก้ปัญหากรณีสแกนไม่ผ่าน

นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการป้องกันให้แก่ผู้มีสิทธิไม่ให้ถูกผู้อื่นนำวงเงินสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐไปใช้โดยผู้มีสิทธิไม่ยินยอม กรมบัญชีกลางได้ให้ บมจ. ธนาคารกรุงไทย พัฒนาแอปพลิเคชันถุงเงินที่รับชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยวงเงินสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ 

นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง

โดยผู้มีสิทธิจะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนและรหัสคู่บัตร (PIN Code) 6 หลัก พร้อมทั้งสแกนใบหน้าสำหรับการยืนยันการชำระเงิน เพื่อให้มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้เริ่มใช้งานตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2567 

ทั้งนี้ ยกเว้นกลุ่มผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุ ที่มอบอำนาจให้ดำเนินการแทน และกลุ่มผู้ที่สแกนใบหน้าไม่ผ่านตั้งแต่ขั้นตอนยืนยันตัวตน (e-KYC) ไม่ต้องทำการสแกนหน้าในการยืนยันการชำระเงิน 

อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิได้ด้วยตนเอง และได้ทำการยืนยันตัวตน (e-KYC) ด้วยตนเองไปแล้ว หากไม่สะดวกเดินทางไปใช้สิทธิที่ร้านค้าด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้ผู้ดูแลกรอกแบบฟอร์มหนังสือมอบอำนาจสำหรับผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ด้วยตนเอง และนำเอกสารไปดำเนินการที่สาขา บมจ. ธนาคารกรุงไทย 

“บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ใช้สิทธิผ่านแอปถุงเงิน ต้องสแกนหน้า บัญชีกลางย้ำ

“จากรายงานข่าวเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2567 แจ้งว่าผู้มีสิทธิไปใช้สิทธิซื้อสินค้าร้านธงฟ้าที่รับชำระค่าสินค้าด้วยแอปพลิเคชันถุงเงินที่ จ.ชัยนาท เมื่อเลือกซื้อสินค้าแล้วในขั้นตอนการชำระค่าสินค้าจะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชน และรหัสคู่บัตร 6 หลัก พร้อมทั้งสแกนใบหน้า แต่สแกนใบหน้าไม่ผ่านทำให้ต้องคืนสินค้า จากการตรวจสอบพบว่าในวันเดียวกันนั้นผู้มีสิทธิรายดังกล่าวได้ใช้สิทธิซื้อสินค้าเรียบร้อยแล้ว ส่วนสาเหตุที่สแกนใบหน้าไม่ผ่าน เนื่องจากแสงสว่างมากเกินไป” 

โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อป้องกันปัญหาที่ไม่สามารถสแกนใบหน้าผู้มีสิทธิได้ ให้ร้านค้าหรือผู้ประกอบการดำเนินการ ดังนี้

1. ให้ผู้มีสิทธิยืนในตำแหน่งของร้านค้าที่มีแสงสว่างเหมาะสม ไม่ยืนย้อนแสง ไม่มีเงาตกกระทบบนใบหน้า

2. ให้ผู้มีสิทธิถอดแว่นตก หมวก และหน้ากากอนามัย (ถ้ามี) ออก เก็บผมไว้หลังใบหูขณะทำรายการ

3. ให้ใบหน้าผู้มีสิทธิอยู่ในกรอบ พร้อมมองตรง ไม่เอียงศีรษะ ไม่ขยับหน้าไปมาขณะถ่ายรูปสแกนใบหน้า

ทั้งนี้ สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐเป็นสิทธิเฉพาะตัวของผู้มีสิทธิซึ่งมีชื่อระบุบนหน้าบัตรเท่านั้น ผู้มีสิทธิจะต้องเก็บและรักษาบัตรประจำตัวประชาชนและรหัสคู่บัตร (PIN Code) 6 หลัก ไว้ในที่ปลอดภัย เพื่อประโยชน์ในการรับความช่วยเหลือผ่านบัตรประจำตัวประชาชน 

โดยร้านธงฟ้า ร้านค้าก๊าซหุงต้ม และผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ จะต้องตรวจสอบรูปหน้าบนบัตรประจำตัวประชาชนทุกครั้งก่อนใช้สิทธิ หากตรวจสอบแล้วพบว่าร้านค้าและผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะไม่ปฏิบัติตาม จะถูกเพิกถอนการเข้าร่วมโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ