สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ หรือ 1.72% ปิดที่ 85.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.50 ดอลลาร์ หรือ 1.72% ปิดที่ 88.92 ดอลลาร์/บาร์เรล
รายงานระบุว่า กองทัพยูเครนได้ส่งโดรนโจมตีหนึ่งในโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ขณะที่รัสเซียซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลกก็ทำการโจมตีสาธารณูปโภคด้านพลังงานของยูเครนเช่นกัน
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า โรงงานแอสทราคาน (Astrakhan) ซึ่งเป็นโรงงานแปรรูปก๊าซขนาดใหญ่ของรัสเซียและบริหารโดยบริษัทก๊าซพรอม (Gazprom) ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย ได้ระงับการผลิตเพื่อซ่อมแซมโรงงาน
สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน โดยอิหร่านประกาศว่าจะตอบโต้อิสราเอล หลังจากอิสราเอลโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย ซึ่งรวมถึงนายโมฮัมหมัด เรซา ซาเฮดี ผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่าน
นักวิเคราะห์ระบุว่า หากอิหร่านทำสงครามโดยตรงกับอิสราเอล ก็จะทำให้ความขัดแย้งในตะวันออกกลางลุกลามออกไปจนส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำมันในตลาด
สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยผลการสำรวจล่าสุดระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ผลิตน้ำมันในเดือนมี.ค.รวมกันทั้งสิ้น 26.42 ล้านบาร์เรล/วัน ลดลง 50,000 บาร์เรล/วันจากระดับของเดือนก.พ. โดยการสำรวจดังกล่าวพิจารณาจากข้อมูลด้านการขนส่งและข้อมูลจากแหล่งข่าวในแวดวงอุตสาหกรรมพลังงานซึ่งรวมถึงแหล่งข่าวในกลุ่มโอเปก
คณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มโอเปกพลัส จะประชุมร่วมกันในวันนี้ (3 เม.ย.) เพื่อทบทวนภาวะตลาดน้ำมันและประเมินการดำเนินการปรับลดกำลังการผลิตของบรรดาชาติพันธมิตร ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า โอเปกพลัสยังไม่มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงนโยบายการผลิตน้ำมันก่อนที่จะถึงวันประชุมรัฐมนตรีกลุ่มพลังงานของโอเปกพลัสในวันที่ 1 มิ.ย.
สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลง 2.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 มี.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบอย่างเป็นทางการจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้