สภาผู้แทนราษฎร (สส.) ผ่านร่าง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 คาดว่าจะเริ่มเบิกจ่ายได้ ในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่งผลให้กระทรวงคมนาคม เร่งผลักดัน โครงการขนาดใหญ่ เครื่องยนต์สำคัญที่รัฐบาลใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศออกประมูลในช่วงครึ่งปีหลัง
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า เมื่อวันที่ 2เมษายน ที่ผ่านมา กระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมร่วมขับเคลื่อนโครงการสำคัญในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามผลการดำเนินโครงการสำคัญตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ครั้งที่ 1/2567
โดยแผนโครงการลงทุนด้านคมนาคมในปีงบประมาณ 2567 มีจำนวน 14 โครงการ วงเงินรวม 631,371 ล้านบาท ซึ่งโครงการสำคัญลำดับเร่งด่วน เช่น 1.โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ระยะทาง 167 กม. วงเงิน 29,748 ล้านบาท 2.โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ทั้งงานโยธาและงานระบบ ระยะทาง 35.9 กม. วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท 3.โครงการที่พักริมทางศรีราชาบน M7 ช่วงชลบุรี-พัทยา พื้นที่ฝั่งละ 59 ไร่ วงเงิน 3,757 ล้านบาท 4.โครงการที่พักริมทางบางละมุง บน M7 ช่วงพัทยา-มาบตาพุด พื้นที่ฝั่งละ 38 ไร่ วงเงิน 2,476 ล้านบาท
5.มอเตอร์เวย์ ส่วนต่อขยาย M7 เชื่อมต่อสนามบินอู่ตะเภา ระยะทาง 1.92 กม. วงเงิน 4,508 ล้านบาท 6.ทางพิเศษฉลองรัช ส่วนต่อขยาย (ช่วงจตุโชติ - ลำลูกกา) ระยะทาง 16.2 กม. วงเงิน 24,060 ล้านบาท 7.ทางพิเศษจังหวัดภูเก็ต ตอนกะทู้-ป่าตอง ระยะทาง 3.9 กม. วงเงิน 16,494 ล้านบาท 8.รถไฟชานเมืองสายสีแดงเข้ม ช่วงรังสิต-มธ. ศูนย์รังสิต ระยะทาง 8.84 กม. วงเงิน 6,468 ล้านบาท 9.รถไฟชานเมืองสายสีแดงช่วงตลิ่งชัน-ศาลายา ระยะทาง 14.80 กม. วงเงิน 10,670 ล้านบาท 10.รถไฟชานเมืองสายสีแดงอ่อน ช่วงตลิ่งชัน-ศิริราช ระยะทาง 5.7 กม. วงเงิน 4,616 ล้านบาท ฯลฯ
นอกจากนี้สำนักนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางการจัดเส้นทาง Feeder เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยจะผลักดันดำเนินการระยะเร่งด่วน 30 เส้นทาง ภายในปี 2567 เพื่อรองรับการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดง ขณะที่ระยะกลางภายในปี 2568-2569 จะผลักดันอีก 15 เส้นทางรองรับการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีเขียว สายสีชมพู และสายสีส้ม ส่วนอีก 66 เส้นทางจะดำเนินการในระยะถัดไปตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท.ได้อนุมัติเห็นชอบดำเนินการโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จำนวน 3 เส้นทาง วงเงินรวม 133,146 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย ระยะทาง 281 ล้านบาท วงเงิน 81,143 ล้านบาท 2.โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี ระยะทาง 308 กม. วงเงิน 44,103 ล้านบาท 3.โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ระยะทาง 45 กม. วงเงิน 7,900 ล้านบาท โดยทั้ง 3 เส้นทาง อยู่ระหว่างจัดทำข้อมูลเพื่อเสนอขออนุมัติโครงการฯ หลังจากนั้นรฟท.จะเสนอรายงานผลการประชุมคณะกรรมการฯในครั้งนี้ต่อกระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป
แหล่งข่าวจากวงการรับเหมาเปิดเผย เป็นโอกาสที่ดีที่งบประมาณปี2567 ใกล้เบิกจ่ายเชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศอย่างมาก จากการจับจ่าย การจ้างงาน โดยเฉพาะผู้รับเหมารายย่อยที่รับงานต่อมาจากผู้รับเหมารายใหญ่ และมีโครงการขนาดใหญ่ใหม่ๆ เกิดขึ้นซึ่งจะช่วยสร้างความเจริญให้กับประเทศเพิ่มขีดการแข่งขันทางการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน