นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า จากผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเดือนมีนาคม 2567 จำนวน 4,728 ตัวอย่าง ครอบคลุมประชาชนทุกอำเภอทั่วประเทศ เกี่ยวกับพฤติกรรมการเดินทางและการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปี 2567 ประชาชนมีแผนการเดินทางในช่วงวันหยุดสงกรานต์ในปีนี้เพิ่มขึ้นจากการสำรวจเมื่อปี 2565 อย่างชัดเจน
จังหวัดปลายทางยอดนิยมคือ ชลบุรี เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองหลักที่จะเตรียมจัดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567” โดยการจับจ่ายใช้สอยในส่วนของกลุ่มกำลังซื้อสูงเพิ่มขึ้นจากปี 2565 เล็กน้อย และมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านอาหารสูงที่สุด
ทั้งนี้ สนค. คาดการณ์ยอดค่าใช้จ่ายเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 จะมีไม่ต่ำกว่า 4.7 หมื่นล้านบาท โดยมีรายละเอียดผล การสำรวจ ดังนี้ ประชาชนที่มีแผนเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีสัดส่วนร้อยละ 25.81 ของจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด แบ่งเป็นการเดินทางไปต่างจังหวัด ร้อยละ 23.49 ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนจากการสำรวจเมื่อปี 2565 ที่มีร้อยละ 10.68 สำหรับจังหวัดปลายทาง 5 อันดับแรก ใกล้เคียงกับผลสำรวจปี 2565 คือ
ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศ มีเพียงร้อยละ 2.32
สำหรับผู้ที่ไม่มีแผนเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในภาพรวมให้เหตุผล 3 อันดับแรก คือ
ยานพาหนะที่นิยมใช้เดินทางไปต่างจังหวัด 3 อันดับแรก คือ
วงเงินที่คาดว่าจะใช้จ่ายตลอดการเดินทางไปต่างจังหวัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในภาพรวมประชาชนที่มีแผนเดินทางคาดว่าจะใช้จ่าย
สำหรับการพิจารณาตามระดับรายได้ พบว่า
ประเภทค่าใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 3 อันดับแรก คือ
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า สัดส่วนค่าใช้จ่ายศาสนกิจ 0.90% ลดลงค่อนข้างมากจากการสำรวจในปี 2565 3.26%
นายพูนพงษ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่คนไทยนิยมเดินทางไปต่างจังหวัด ทั้งเพื่อกลับไปเยี่ยมครอบครัว และเพื่อการท่องเที่ยวพักผ่อน สำหรับปีนี้คาดว่าจะคึกคักเป็นพิเศษ โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี เชียงใหม่ กรุงเทพฯ ขอนแก่น และภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมทุกปี ประกอบกับรัฐบาลโดยความร่วมมือกับทุกภาคส่วนจะจัดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567” อย่างยิ่งใหญ่ทั่วประเทศยาวต่อเนื่องถึง 21 วัน (วันที่ 1 – 21 เม.ย. 67)
นอกจากนี้ เทศกาลสงกรานต์ยังได้รับการประกาศจากยูเนสโก (UNESCO) เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2566 ให้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ซึ่งเชื่อว่าจะดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้อย่างหนาแน่น โดยจะเป็นโอกาสของผู้ประกอบการและผู้ที่ต้องการหารายได้เสริม ในการจำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม อุปกรณ์เล่นน้ำ ของฝาก และของที่ระลึกในสถานที่จัดงาน สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง และริมเส้นทางถนนไปจังหวัดต่าง ๆ โดยคาดว่าจะเกิดการจับจ่ายใช้สอยและสร้างรายได้จำนวนมหาศาล ในส่วนของการจราจรทางถนนที่คาดว่าจะหนาแน่นมาก ภาครัฐได้บูรณาการกับทุกภาคส่วนเพื่อป้องกันและแก้ไขอุบัติเหตุทางถนน โดยการจัดตั้งจุดตรวจ จุดอำนวยความสะดวก และจุดบริการ เพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย
สำหรับกระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนินการตรวจมาตรวัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่สถานีบริการน้ำมันในจังหวัดต่าง ๆ แล้ว และจะตรวจสอบและติดตามสถานการณ์จำหน่ายสินค้าในช่วงเทศกาลสงกรานต์อย่างใกล้ชิด ทั้งในสถานีขนส่ง สถานีรถไฟ สนามบิน รวมไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่าจะมีประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมาก เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทางการค้าในทุกภาคส่วน ทั้งผู้ผลิต ผู้ประกอบการ และเพื่อให้ประชาชนจับจ่ายใช้สอยได้อย่างมั่นใจตลอดช่วงเทศกาลมงคลของปีนี้