วันนี้ (14 เมษายน 2567) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ยอดการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ประจำวันที่ 13 เมษายน 2567 (สะสม 3 วัน) พบว่ายังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อยู่ที่ระดับ 8,065,992 คน-เที่ยว เพิ่มขึ้น 5.39% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566
สำหรับระบบการขนส่งทางรางมีการใช้บริการสูงสุด คิดเป็นสัดส่วน 45.28% รองลงมาเป็นระบบขนส่งทางถนน 33.80% ถัดมาเป็นอากาศ 11.49% และสุดท้ายระบบขนส่งทางน้ำ 9.42%
ทั้งนี้ระบบขนส่งสาธารณะภายในประเทศที่มีผู้ใช้สูงสุดในแต่ละภูมิภาค ได้แก่
ขณะที่การจราจรเข้า - ออก กรุงเทพฯ บนทางหลวงสายหลัก 10 เส้นทาง มีปริมาณ 3,137,863 คัน เพิ่มขึ้น 2.78% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านการเดินทางภายในกรุงเทพฯ บนทางด่วนมีปริมาณ 4,357,619 คัน ลดลง 3.48%
ส่วนการตรวจความพร้อมรถโดยสารสาธารณะ ณ จุดตรวจ จุดพักรถ และจุดจอด 221 แห่ง มีการตรวจรถ 43,123 คัน พบบกพร่อง 8 คัน และสั่งเปลี่ยนรถ 8 คัน ตรวจผู้ปฏิบัติงาน จำนวน 3,123 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด
ด้านรถไฟ มีการตรวจความพร้อมผู้ปฏิบัติงาน 202 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด และการตรวจความพร้อมท่าเรือ/แพ 161 แห่ง ตรวจเรือ 2,686 ลำ พบข้อบกพร่อง 8 ลำ ได้สั่งห้ามพร้อมทั้งเปรียบเทียบปรับทั้ง 8 ลำ และตรวจผู้ปฏิบัติงาน 3,868 คน ไม่พบแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติด
นอกจากนี้ ยังได้มอบให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กำกับดูแลรถโดยสารสาธารณะ ไม่ให้ฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้โดยสารช่วงเทศกาลสงกรานต์ กำชับพนักงานขับรถต้องมีความพร้อมก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ หากพบการกระทำความผิดให้ลงโทษขั้นสูงสุด
อย่างไรก็ตามวันที่ 12 เมษายน 2567 ขบ. รายงานผลการติดตามตรวจสอบการเดินรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก ด้วยระบบ GPS Tracking 50,338 คัน พบการใช้ความเร็วเกินกฎหมายกำหนด 210 คัน และการตรวจด้วยกล้องเลเซอร์ 1,932 คัน พบการใช้ความเร็วเกินกำหนด 15 คัน และได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับรถโดยสารสาธารณะแล้ว 46 เรื่อง พบว่าเป็นกรณีขับรถประมาท/น่าหวาดเสียว มากที่สุด