ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบวิธีการยื่นคำขอกู้ผ่านระบบ e-service และวิธีคำนวณดอกเบี้ย "โครงการเงินกู้สร้างสุข ปลดทุกข์หนี้นอกระบบ" ของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน
หลังจาก นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ออกมาเปิดเผยข่าวดีและเชิญชวนว่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เชิญชวนสหกรณ์ออมทรัพย์/สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจ กู้เงินเป็นทุนช่วยลูกจ้างปลดหนี้นอกระบบ พัฒนาคุณภาพชีวิตในโครงการพิเศษ “โครงการเงินกู้สร้างสุข ปลดทุกข์หนี้นอกระบบ”
มีวงเงินกู้ 50 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเพียงร้อยละ 0.50 – 1.50 ต่อปี สำหรับโครงการพิเศษนี้มีระยะเวลาในการยื่นคำขอกู้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 นี้ เท่านั้น
ข้อมูลจาก กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ระบุว่า ได้มีการออก "ประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน เรื่อง โครงการเงินกู้สร้างสุข ปลดทุกข์หนี้นอกระบบ" โดยที่คณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน มีมติจากการประชุม ครั้งที่ 11/2566 เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2566
ประกาศ ณ วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ลงนามโดย นางโสภา เกียรตินิรชา ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ในฐานะประธานกรรมการบริหารกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน
เห็นชอบให้กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานจัดทำโครงการเงินกู้สร้างสุข ปลดทุกข์หนี้นอกระบบ ให้แก่สมาชิกสหกรณ์ฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างสุขและช่วยเหลือให้ผู้ใช้แรงงานที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์หรือสหกรณ์เครดิดยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจ
ในการนำไปปลดเปลื้องหนี้สิน หรือลงทุนประกอบอาชีพเสริม เพื่อพัฒนารายได้แก่ตนเองและครอบครัวทำให้แรงงานได้รับสวัสดิการที่ดี สามารถยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งเสริมสร้างรากฐานความมั่นคงด้านเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม
คณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน จึงออกประกาศ โดยมีเนื้อหาโดยสรุปที่น่าสนใจ
ทั้งนี้ การให้บริการเงินกู้ ให้สหกรณ์ออมทรัพย์หรือสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจให้บริการเงินกู้แก่ผู้ใช้แรงงานที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ได้ไม่เกินคนละ 1 แสนบาท
กรณีสหกรณ์ออมทรัพย์หรือสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจรายใหม่ที่ยังไม่เคยใช้บริการเงินกู้กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงานให้ผ่อนส่งเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเงินกู้เป็นงวดรายเดือน ดังนี้
สหกรณ์ออมทรัพย์หรือสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการต้องจัดทำคำขอกู้เงินยื่นต่อกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานพร้อมรายละเอียดของโครงการหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้องตามหลักเกณฑ์การให้บริการเงินกู้กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน
โดยมีคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ทั้งคณะและผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการสหกรณ์เป็นผู้ค้ำประกันการกู้เงิน
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่สหกรณ์ออมทรัพย์หรือสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจที่เข้าร่วมโครงการต้องให้บริการเงินกู้กับสมาชิกในอัตราต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยประเภทเงินกู้สามัญที่เรียกเก็บจากสมาชิกไม่น้อยกว่าร้อยละ 1.5 ต่อปี
ในกรณีที่มีปัญหาในการดำเนินการตามประกาศฉบับนี้ ให้นำเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานพิจารณาเป็นกรณีไป โดยผลการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน
ให้ถือเป็นที่สุด
นางโสภา เกียรตินิรชา อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดเผยว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจ ที่มีความประสงค์จะกู้เงินจากกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน ส่วนกลางสามารถยื่นคำขอได้ดังนี้