“เศรษฐา” มอบงานว่าที่รมว.คลังคนใหม่ สั่งเร่งใช้งบปี 67

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ได้เชิญกรมบัญชีกลาง และนายพิชัย ชุณหวชิร ว่าที่ รมว.คลัง เข้าประชุมหารือ เพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 หลังจากงบเพิ่งออกมาใช้ได้ทางการ 3.48 ล้านล้านบาท เพราะจะถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีนี้ให้ขยายตัวได้ และที่ผ่านมานายกฯ ก็ได้ย้ำเรื่องนี้ใน ครม.ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ขณะนี้ พ.ร.บ.งบประมาณปี 67 ได้มีผลใช้บังคับไปเมื่อวันที่ 26 เม.ย.67 โดยกรมบัญชีกลางได้ออกมาตรการลดระยะเวลาจัดซื้อจัดจ้าง ประกอบด้วย 

1.การเผยแพร่ร่างประกาศและร่างเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ กำหนดให้วงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท ให้อยู่ในดุลพินิจของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐที่จะให้มีการเผยแพร่ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการหรือไม่ก็ได้ จากเดิมที่กำหนดเพดานไว้ที่ 5 ล้านบาท

ส่วนการเผยแพร่ประกาศและเอกสารซื้อหรือจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป   ได้แก่ การซื้อหรือการจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้หน่วยงานของรัฐดำเนินการเผยแพร่ประกาศและเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการซื้อหรือจ้างครั้งหนึ่งซึ่งมีวงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 100 ล้านบาทบาท ไม่น้อยกว่า 3 วันทำการ แต่ถ้าวงเงินเกิน 100 ล้านบาท ให้เผยแพร่ประกาศเอกสาร ไม่น้อยกว่า 20 วันทำการ

ด้านการจ้างที่ปรึกษา และการจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง โดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป ให้หน่วยงานของรัฐเผยแพร่ประกาศและเอกสารการจ้างที่ปรึกษา และเผยแพร่ประกาศ และเอกสารการจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 วันทำการ โดยให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในปีงบประมาณ 67 เท่านั้น  

ทั้งนี้ ยังได้ออกแนวทางเร่งรัดเบิกจ่าย อีก 6 วิธี อาทิ

1. เมื่อได้รับอนุมัติเงินจัดสรรแล้ว กรณีเป็นรายการที่เบิกจ่ายโดยสำนักงานในส่วนภูมิภาค ให้เร่งส่งเงินจัดสรรต่อไปยังสำนักงานในส่วนภูมิภาคภายใน 5 วัน นับแต่ได้รับอนุมัติ 
2. รายการปีเดียว ให้หน่วยรับงบประมาณพิจารณากำหนดเวลาส่งมอบงานให้เร็วขึ้น เพื่อเบิกจ่ายได้ทันเดือนก.ย.67 
3. รายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่เป็นรายจ่ายลงทุนรายการใหม่ ควรก่อหนี้ผูกพันให้แล้วเสร็จภายในเดือนพ.ค.67 
4. หากคาดว่าไม่สามารถก่อหนี้ได้ทัน ให้เร่งหารือสำนักงบประมาณเพื่อมิให้เงินพับตกไปเมื่อสิ้นปีงบ
5. ให้หัวหน้าหน่วยรับงบประมาณ รายงานผลเบิกจ่ายให้กรมบัญชีกลาง ทุกวันที่ 5 ของเดือนถัดไป 
6. ดำเนินการเบิกหักผลักส่ง เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 67 ชดใช้เงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 66 ไปพลางก่อนภายในเดือนก.ค.67