วันที่ 30 เมษายน 2567 พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ที่ดูแลพื้นที่ 5 อำเภอชายแดนไทย-เมียนมา จังหวัดตาก(อ.แม่สอด-อุ้มผาง-พบพระ-แม่ระมาด และอ.ท่าสองยาง) ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนไทย เมียนมา (แม่สอด เมียวดี)
ได้รับการประสานจากประธานคณะกรรมการชายแดนไทย เมียนมา (เมียวดี แม่สอด) ว่า ทางการเมียวดี สหภาพเมียนมา มีความพร้อมที่จะเปิดด่านพรมแดนไทย – เมียนมา บริเวณสะพานมิตรภาพไทย –เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 บ้านวังตะเคียนใต้ หมู่ที่ 7 ตำบลท่าสายลวด อ.แม่สอดโดยให้รถยนต์สินค้าไปมาได้ตามปกติ
ทันที่มีการรายงานจากทางการเมียวดี หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ได้ส่งกำลังทหารไปช่วยดูแล และอำนวยความสะดวก รถยนต์บรรทุกสินค้าทุกคัน รวมทั้งการตรวจสอบสิ่งผิดกฎหมายด้วย
จากการตรวจสอบบริเวณสะพานมิตรภาพไทย –เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 2 พบว่า มีรถยนต์บรรทุกสินค้าไทย ที่ตกค้างอยู่ 80 คัน รีบข้ามไปฝั่งเมียนมาเพื่อไปส่งสินค้าทันที ซึ่งรถยนต์ที่ติดค้างอยู่ทั้งหมด ติดอยู่ในเขตไทยตั้งแต่สถานการณ์การสู้รบในฝั่งเมียนมารุนแรง จนมาสู้เหตุการณ์ปกติในเมืองเมียวดี
นายบรรพต ก่อเกียรติเจริญ นักธุรกิจรายใหญ่ การค้าชายแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สอด จ.ตาก ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัดตาก กล่าวถึงสถานการณ์การสู้รบระหว่างทหารชนกลุ่มน้อย กับทหารฝ่ายรัฐบาลเมียนมา ว่า เหตุการณ์การสู้รบ เริ่มสงบลงแล้ว ที่ผ่านมานับเดือนมูลค่าการค้าชายแดนสะดุดลงอย่างมาก ในช่วงที่มีการสู้รบ แต่หลังกาสู้รบสงบ มูลค่าการค้าคาดว่าจะดีขึ้นเศรษฐกิจจะกระเตื้องขึ้น หากการสู้รบสงบลงจริงและไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น
ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างเดือนมีนาคม-เมษายน2567 มูลค่าการค้าได้หยุดชะงักลงโดยเฉพาะช่วงที่มีการสู้รบรุนแรง โดยก่อนหน้านี้ในช่วงระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2567 มูลค่าการค้าชายแดนประมาณเดือนละไม่ต่ำกว่า 7,000 ล้านบาท เชื่อว่าต่อจากนี้มูลค่าการค้าจะไม่น้อยกว่า 7,000-8,000 ล้านบาทต่อเดือนหรือจะสูงกว่านี้