นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยถึงประเด็นเรื่องการขนย้ายกากแคดเมียม ว่า เป็นห่วงเรื่องฝน ขณะนี้พยายามขนกากแคดเมียมที่อยู่นอกอาคารเข้าไปเก็บในอาคาร และพยายามให้เป็นไปตามแผนอันไหนที่ปรับเพื่อคลายความกังวลของประชาชนก็ทำ เช่น
เรื่องรถขนส่ง เปลี่ยนมาใช้ตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด โดยเมื่อวานนี้ออกจากจังหวัดสมุทรสาครไปแล้ว 8 คัน ถึงที่หมายจังหวัดตาก เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้กำลังเคลื่อนถุงลงจากรถ โดยพยายามทำตามกำหนดการ ถ้ามีรถเพิ่มขึ้นก็จะดีที่สุด
ส่วนกรณีเหตุไฟไหม้โรงงานอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งนั้น ส่วนหนึ่งมาจากอากาศ ซึ่งตอนนี้มีการเฝ้าระวัง ล่าสุดคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่มี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธาน โดยได้สั่งการให้แต่ละจังหวัด รวมถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ออกสำรวจพื้นที่โรงงานที่มีความเสี่ยง ภายใน 20 วัน
และนำรายชื่อเข้าคณะกรรมการและกระทรวงอุตสาหกรรมเองโดยทางกรมโรงงานได้แบ่งคณะไปตรวจเหมือนกัน แต่เรื่องนี้คงต้องระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นคนในพื้นที่หรือหน่วยงานต้องช่วยกัน
ส่วนที่กรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร วิเคราะห์ว่าเป็นการวางเพลิง เพื่อเลี่ยงกฎหมายใหม่ที่จะมาบังคับใช้นั้น คิดได้หลายมุม อันดับแรกกฎหมายบังคับแล้วว่า จะต้องเคลียร์กากตะกอนสารเคมีออกจากโรงงาน ถ้าคิดในมุมไม่ดี ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ การเผาไม่ต้องเสียค่ากำจัด
ซึ่งผู้ประกอบการต้องยอมรับด้วยว่าการกระทำแบบนี้มีผลกระทบต่อประชาชนโดยรอบจำนวนมาก เรื่องนี้คงเป็นเรื่องการวางเพลิงไม่ได้ จะต้องยกระดับความรุนแรง ปฏิบัติการแบบนี้หมายถึงความมั่นคงแล้ว ตนจึงขอความช่วยเหลือจากฝ่ายความมั่นคง ไม่ว่าตำรวจหรือดีเอสไอ เข้าไปดูแลเรื่องนี้ด้วย
นางสาวพิมพ์ภัทรา กล่าวต่อไปอีกว่า โรงงานที่ถูกศาลสั่งให้คืนพื้นที่และต้องจัดการกับกากสารเคมีทราบว่ามีกี่เจ้า เพียงแต่เวลาทำไม่ดีทำได้ง่ายกว่า คนที่ไม่รับผิดชอบทำง่ายกว่าคนที่รับผิดชอบ ซึ่งขณะนี้มีโรงงานในลักษณะดังกล่าว 6-10 โรงงาน
ส่วนจะเอาผิดโรงงานเหล่านี้ได้หรือไม่นั้น วันนี้ที่ทำควบคู่กันไป คือกรมโรงงานอุตสาหกรรมเสนอแก้กฎหมายเพิ่มโทษ เรื่องนี้เป็นภัยความมั่นคง ที่ชาวบ้านโดยรับได้รับผลกระทบ เราไม่ได้มองแค่เรื่องไฟไหม้ แต่ยังมองไปถึงสภาพอาการที่ชาวบ้านต้องเจอ ส่วนที่เริ่มเข้าฤดูฝนขณะนี้มีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมามอร์นิเตอร์เรื่องสารเคมีลงสู่แหล่งน้ำ ตนเข้าใจว่าประชาชนในพื้นที่เจอปัญหามากที่สุด
อย่างไรก็ดี ยืนยันได้ลำบากว่าน้ำจะปนเปื้อนสารเคมีจากโรงงานลงสู่แหล่งน้ำหรือไม่ อย่างที่จังหวัดระยองและพระนครศรีอยุธยา ขณะนี้ได้ขอให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ.สร้างพนังกั้นน้ำ แต่ต้องดูว่าจะสามารถทำได้หรือไม่ และยอมรับว่ามีความกังวล