นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีกำหนดการจะจัด ครม.สัญจรในพื้นที่ จ.นครราชสีมา วันที่ 1 - 2 กรกฎาคม 2567 นี้ ถือเป็นเรื่องนี้สำหรับจังหวัดนครราชสีมาที่ ครม.ประชุมสัญจรที่นี้ เพราะคณะรัฐมนตรีจะได้ทราบความต้องการของชาวโคราช และได้ดูสถานที่จริงตามโครงการที่นำเสนอขอรับการสนับสนุน โดยเฉพาะเรื่องโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆที่โคราชยังขาดอยู่ และเป็นโอกาสที่ทางจังหวัดนครราชสีมา จะได้เสนอขอสนับสนุนงบประมาณในการดำเนินการพัฒนาจังหวัดในด้านต่างๆ เพื่อรองรับการเติบโตของเมืองในอนาคต
ในส่วนของภาคเอกชนก็พร้อมให้การสนับสนุนขณะเดียวกันทางหอการค้าฯ ได้นำเสนอขอคิดเห็นในโครงการต่าง ๆที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้หลายโครงการมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท ซึ่งเสนอผ่านทางจังหวัดหลายโครงการ
นายสุดที่รัก กล่าวอีกว่า โดยภาพรวมด้านเศรษฐกิจของจังหวัดนครราชสีมาจะมีลักษณะที่คล้ายกับจังหวัดอื่นๆ เนื่องจากช่วงนี้งบประมาณภาครัฐยังไม่ได้มีการนำมาใช้ในพื้นที่ คาดว่าไตรมาสที่ 3 ของปีนี้สถานการณ์ต่างๆ น่าจะดีขึ้น เพราะเม็ดเงินจากภาครัฐจะกระจายลงพื้นที่ต่างๆ จากการเบิกจ่าย จะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องของการประชุมสัมมนาของภาครัฐจะเชื่อมให้ธุรกิจในท้องถิ่นมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น แต่ส่วนที่เป็นปัญหาและเรากังวลอย่างมากคือ การปล่อยสนเชื้อของธนาคารเนื่องจากข้อมูลทางธนาคารพบว่า มีตัวเลขหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มมากขึ้นเป็นก้อนที่ใหญ่มาก ทำให้ธนาคารต้องกลับไปทบทวนการปล่อยสินเชื่ออีกครั้ง นั้นหมายความว่า ธนาคารมีข้อจำกัดในการปล่อยสินเชื่อมากยิ่งขึ้น หรืออาจจะปล่อยให้น้อยที่สุดเพื่อให้กิจการเดินต่อไปได้ เรื่องนี้เป็นปัญหาต่อนักลงทุนและส่งผลต่อธุรกิจอื่นๆ ที่ต้องพึ่งการปล่อยสินเชื่อของธนาคารเป็นหลัก
อย่างไรก็ตามคาดว่าในไตรมาสที่ 3 สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะมีปัจจัยบวกหลายอย่างที่เป็นแรงหนุน ทั้งเรื่องงบประมาณของรัฐที่จะกระจายลงพื้นที่ และ เงินดิจิทัลที่รัฐบาลจะออกมาคนไทยยังมีความหวังกับเรื่องนี้และเชื่อว่ามันจะสามารถช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของไทยได้เป็นอย่างดี แต่อยากฝากให้รัฐพิจารณาเงื่อนไขในการใช้จ่ายเงินก้อนนี้ให้ดีให้เงินหมุนเวียนในประเทศประมาณ 3-5 รอบ ซึ่งจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้เป็นอย่างดีถ้ารัฐใช้จ่ายให้เป็น
นายสุดที่รัก กล่าวอีกว่า ในการประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้ภาคเอกชนได้จัดเตรียมของขวัญชิ้นพิเศษต้อนรับคณะรัฐมนตรี โดยเราจะสร้างพลังซอฟพาวเวอร์ ผ่าน ครม. โดยทางภาคเอกชนได้จัดเตรียมชุดลำลอง ลายแมว แต่เป็นลายใหม่ที่ถูกออกแบบมาให้เฉพาะคณะรัฐมนตรี และเชื่อว่าจะเป็นลายใหม่ที่จะได้รับความนิยมไม่แพ้ลายเดิม โดยเรายังคงใช้ลายโคราชโมโนแกรมในการขับเคลื่อนโดยไม่ทิ้งลายแมวแต่อย่างใด เพียงแต่มีการจัดวางแบบใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และจะเป็นของขวัญที่เราเตรียมเซอร์ไพรส์คณะรัฐมนตรีแน่นอน นอกจากนี้เราจะนำเสนอเรื่องการก่อสร้างรถไฟทางคู่ โดยเฉพาะกรณีการทุบไม่ทุบสะพานสีมาธานีด้วย นายสุดที่รัก กล่าว
สำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาและแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจจังหวัดนครราชสีมา (กรอ.จังหวัดนครราชสีมา) ครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2567 ที่ห้องประชุมสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ชั้น 3 ได้มีการพิจารณาโครงการ/แผนงาน ของจังหวัดนครราชสีมา เพื่อประกอบการเสนอการประชุมครม.สัญจร โดย กรอ.จังหวัดมีมติเห็นชอบ การเสนอโครงการในเบื้องต้นเพื่อเตรียมความพร้อมประกอบการเสนอการประชุมครม.สัญจร ในกรอบวงเงินงบประมาณ 1,642,326,700 บาท ตามแนวทางการจัดทำข้อเสนอโครงการต่อ ครม.สัญจร แบ่งเป็น 2 ส่วน
ส่วนที่ 1. โครงการที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จ ภายใน 1 ปี กรอบวงเงินจังหวัดละ 50 ล้านบาท โดยโครงการที่จังหวัด/ กลุ่มจังหวัดเสนอ จะต้อง 1. สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาที่กำหนด 2. มีความพร้อม สามารถดำเนินการได้ทันที และ3. มีผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้ กรอ. เห็นชอบ โครงการที่มีความพร้อมและดำเนินการแล้วเสร็จ ภายใน 1 ปี กรอบวงเงินจังหวัดละ 50 ล้านบาท เสนอโดยส่วนราชการร่วมกับภาคเอกชน วงเงินงบประมาณ 68,313,600 บาท ประกอบด้วย 1. ด้านการเกษตรและแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและเพื่อการอุปโภค บริโภค เช่น โครงการพัฒนาแหล่งน้ำลำจักราช และ 2. ด้านการท่องเที่ยว เช่น โครงการ Film Industry destination ถ่ายทำภาพยนตร์ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา/โครงการพัฒนาพื้นที่เขาใหญ่ เพื่อให้ได้รับการรับรองเป็น Blue Zone
ส่วนที่ 2. ข้อเสนอประเด็นการพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดฯ ของภาคเอกชน โครงการที่ภาคเอกชนเสนอ เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนา/แก้ไขปัญหา/ เพิ่มศักยภาพของพื้นที่โครงการขนาดใหญ่ ที่สามารถยกระดับการพัฒนา/ เกิดประโยชน์วงกว้างในพื้นที่ จัดลำดับความสำคัญ โดยให้โครงการที่สามารถดำเนินการภายในได้ 1 ปี เป็นลำดับแรก กรอ.เห็นชอบ กรอบงบประมาณ 1,574,013,100 บาท ประกอบด้วย
ด้านการเกษตรและแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและเพื่อการอุปโภค บริโภค เช่น โครงการพัฒนาลุ่มน้ำลำเชียงไกร (ตอนบน) / การพัฒนาส่งเสริมการเกษตรการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพดี
โครงการอีสานวากิวสู่ครัวโลก ด้านอุตสาหกรรม การค้าการลงทุน และการค้าชายแดน เช่น โครงการยกระดับโรงงานต้นแบบนวัตกรรมอาหารครบวงจร (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง)
โครงการจัดสร้างศูนย์ประชุมและนิทรรศการจังหวัดนครราชสีมา ด้านการท่องเที่ยว เช่นโครงการศึกษาความเป็นไปได้และออกแบบพัฒนาเส้นทาง 3 มรดกโลก Triple Heritage Ring Road ด้านคุณภาพชีวิต เช่น โครงการศูนย์การจัดการคาร์บอนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ Center of Carbon Management of Northeastern Region
โครงการพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์ หน่วยบริการปฐมภูมิเขตเมือง เพื่อลดความแออัดให้กับประชาชน ในเขตเมืองนครราชสีมา
ทั้งนี้ ภาคเอกชน จะได้มีการเสนอเร่งรัดโครงการการลงทุนขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มศักยภาพของพื้นที่ สามารถยกระดับการพัฒนาเกิดประโยชน์ในวงกว้าง อาทิ ท่าเรือบก (Dry Port) ,Motorway (M6)/,NeEC, รถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง
สำหรับการประชุม ครม.สัญจรครั้งนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องสถานที่ โดยได้มีการเสนอใช้สถานที่ 3 แห่ง เพื่อดำเนินการจัดประชุม คือ 1. หอประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) 2. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) อีสาน และ3. หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา แล้วแต่ ครม.จะเห็นชอบ ซึ่งทางจังหวัดนครราชสีมาได้นำเสนอให้กับทางสำนักเลขานายกรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3997 วันที่ 1-5 มิถุนายน พ.ศ. 2567