นางสาวปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการรักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ SME (SMESI) ประจำเดือนเมษายน 2567 ว่า อยู่ที่ระดับ 54.1 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 53.0
ทั้งนี้ มาจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นช่วงมหาสงกรานต์ที่มีการจัดอีเว้นท์โดยภาครัฐและภาคเอกชนทำให้มีนักท่องเที่ยวทั้งคนไทย และต่างชาติจำนวนมากออกมาจับจ่ายใช้สอยแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม ทำให้ธุรกิจภาคบริการโดยเฉพาะสาขาการท่องเที่ยวได้รับอานิสงส์มากที่สุด
ส่วนภาคการผลิตชะลอตัวลงหลังจากที่เร่งผลิตไปช่วงก่อนเทศกาลและจากจำนวนวันหยุดในเดือนเมษายน สำหรับภาคธุรกิจการเกษตรชะลอตัวจากปัญหาความแปรปรวนของสภาพอากาศ ส่งผลต่อผลิตผลทางการเกษตร หากพิจารณาดัชนีองค์ประกอบจะพบว่า
องค์ประกอบดัชนีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ องค์ประกอบด้านต้นทุนรวม (ต่อหน่วย) กำไร คำสั่งซื้อโดยรวม ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 40.8 58.9 และ 62.9 จากระดับ 40.7 54.8 และ 59.9 ในเดือนก่อนหน้า
ขณะที่องค์ประกอบด้านการจ้างงาน ด้านการลงทุนโดยรวม ด้านปริมาณการผลิต/การค้า/การบริการ ปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 50.4 52.1 และ 59.2 จากระดับ 50.6 52.3 และ 59.9 ในเดือนก่อนหน้า
สำหรับภาพรวมระดับความเชื่อมั่น SMESI รายสาขาธุรกิจ พบว่า ภาคการบริการ อยู่ที่ระดับ 55.9 จากระดับ 52.8 ของเดือนก่อนหน้า ปรับตัวดีขึ้นชัดเจนหลังจากชะลอลงต่อเนื่อง 2 เดือน โดยปรับดีขึ้นในบริการภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องเป็นหลัก เช่นเดียวกับกลุ่มบริการอื่น
ยกเว้นด้านการก่อสร้างที่ชะลอลงตามจำนวนวันหยุดที่แรงงานกลับภูมิลำเนา ภาคการค้า อยู่ที่ระดับ 52.3 ปรับตัวดีขึ้น จากระดับ 51.9 ของเดือนก่อนหน้า โดยกลุ่มการค้าแบบดั้งเดิม การค้าส่ง และกลุ่มซ่อมบำรุงยานยนต์ปรับดีขึ้นชัดเจนจากการที่มีผู้ใช้บริการมากขึ้น จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่วนกลุ่มการค้าแบบ Modern trade ชะลอตัวจากปัจจัยชั่วคราว
โดยเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นจากร้านค้าชั่วคราวที่เปิดในพื้นที่จัดงานเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่ ภาคการผลิต ปรับตัวลดลงอยู่ที่ระดับ 53.2 จากระดับ 54.2 ของเดือนก่อนหน้า ชะลอตัวลงจากการเร่งการผลิตไปก่อนหน้า
และจากจำนวนวันหยุดกระทบต่อกำลังการผลิต ภาคธุรกิจการเกษตร อยู่ที่ระดับ 53.8 ปรับตัวลดลงเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 57.6 ของเดือนก่อนหน้า เนื่องจากสภาพอากาศที่มีความแปรปรวน รวมถึงอุณหภูมิที่ร้อนจัด ส่งผลกระทบต่อปริมาณผลผลิต และความกังวลของผู้ประกอบการในภาคธุรกิจการเกษตรที่มีต่อปริมาณผลผลิตทางการเกษตรที่จะออกสู่ตลาด โดยเฉพาะกลุ่มข้าวนาปี ผลไม้ และกลุ่มพืชผัก
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า อยู่ที่ระดับ 53.9 ปรับตัวดีขึ้นจากระดับ 53.2 จากการคาดกาณ์ของเดือนที่ผ่านมา ในเกือบทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะด้านกำลังซื้อและกำไร จากภาคการผลิตที่มีแนวโน้มขยายกำลังการผลิตเนื่องจากปริมาณสินค้าคงคลังที่ผลิตเอาไว้ล่วงหน้าเริ่มมีปริมาณลดลง ขณะที่ภาคการค้าและภาคการบริการกลับมีแนวโน้มทรงตัว และภาคธุรกิจการเกษตรชะลอลงต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนความกังวลที่มีต่อปริมาณผลผลิตในช่วงเวลาถัดไป
นอกจากนี้ สสว. ได้ทำการสำรวจความต้องการของผู้ประกอบการ SME พบว่า มาตรการด้านต้นทุนยังคงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการ SME ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด โดยเฉพาะด้านภาระค่าไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้น ด้านการกระตุ้นการใช้จ่าย โดยธุรกิจรายย่อยยังต้องการมาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย ส่วนกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ต้องการให้ส่งเสริมการสร้างรายได้
และอาชีพเพื่อเพิ่มศักยภาพของธุรกิจ และสร้างกำลังซื้อที่ยั่งยืน ธุรกิจรายย่อยและขนาดย่อมต้องการองค์ความรู้ในการบริหารจัดการธุรกิจมากที่สุด โดยเฉพาะการบริหารจัดการด้านต้นทุนและราคาขาย ขณะที่ธุรกิจขนาดกลาง ต้องการการสนับสนุนให้เปิดตลาดต่างประเทศ และการส่งออกเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในธุรกิจ