พลังงานจ่อขยายเพดานตรึง "ราคาน้ำมันดีเซล" ไม่เกิน 35 บ. หลังกองทุนวิกฤตหนัก

31 พ.ค. 2567 | 01:27 น.
อัปเดตล่าสุด :31 พ.ค. 2567 | 01:28 น.

พลังงานจ่อขยายเพดานตรึง "ราคาน้ำมันดีเซล" ไม่เกิน 35 บาท เพื่อให้สะท้อนต้นทุนราคาน้ำมันตลาดโลก ชี้ทำเหมือนปี 65 หลังสถานะกองทุนน้ำมันวิกฤตหนัก ล่าสุดติดลบกว่า 111,345 ล้านบาท

ราคาน้ำมันดีเซลขยับเพิ่มขึ้นอีก 50 สตางค์วันนี้ (31 พ.ค. 67) ทำให้ราคาน้ำมันดีเซลปัจจุบันมาอยู่ที่ 32.94 บาทต่อลิตร โดยเป็นการทยอยปรับขึ้นตั้งแต่หมดมาตรการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลวันที่ 19 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา ซึ่งใกล้ชนเพดานของรัฐบาลที่มีนโยบายตรึงราคาไม่ให้เกิน 33 บาทต่อลิตร

ล่าสุดแหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) ต้องเร่งหาแนวทางในการดูแลราคาน้ำมันดีเซล ในภาวะราคาน้ำมันในตลาดโลกยังผันผวนหลังจากนี้ เพื่อไม่ให้กระทบกับค่าครองชีพประชาชนมากนัก

ทั้งนี้ เบื้องต้นไว้วางไว้ 3 แนวทาง ประกอบด้วย 
 

  • ขอมติ ครม.ให้ขยับเพดานกรอบราคาน้ำมันดีเซลใหม่ เพื่อให้สะท้อนต้นทุนราคาน้ำมันตลาดโลก อาจจะกลับไปกรอบเพดานราคาเดิมไม่เกินลิตรละ 35 บาท ในปี 65 ที่มีภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้เกิดวิกฤติด้านราคา แต่ขณะนี้แม้ไม่ใช่วิกฤติด้านราคาน้ำมันในตลาดโลก แต่เป็นวิกฤติด้านสถานะกองทุนฯ เอง ล่าสุดฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิฯ วันที่ 26 พ.ค. 67 ติดลบ 111,345 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 63,655 ล้านบาท ส่วนก๊าซฯ แอลพีจี ติดลบ 47,690 ล้านบาท

พลังงานจ่อขยายเพดานตรึง "ราคาน้ำมันดีเซล" ไม่เกิน 35 บ. หลังกองทุนวิกฤตหนัก

  • รอการจัดสรรงบประมาณโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแล้วเสร็จ จะขอความร่วมมือให้กรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลอีกครั้ง และ
  • ของบกลางดูแลราคาน้ำมันดีเซล

 

อย่างไรก็ดี หากดูทั้ง 3 แนวทางแล้ว แนวทางดีที่สุด คือ แนวทางแรกซึ่งเป็นการสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงของราคาน้ำมันตลาดโลก และยังเป็นการแก้ปัญหาสภาพคล่องของกองทุนฯ ที่ยังติดลบเกินแสนล้านบาทอยู่ 

ส่วนแนวทางต่อมาเสมือนเป็นการเจียดกระเป๋าซ้าย มากระเป๋าขวา 

ขณะที่แนวทางสุดท้ายตอนนี้งบประมาณมีไม่เยอะ จะยิ่งเป็นการสร้างภาระให้กับรัฐบาลเข้าไปอีก ต้องดูต่อไปว่ารัฐบาลจะตัดสินใจอย่างไร