“สุริยะ” ลดค่าทางด่วน 50 บาท แลกสัมปทาน "ทางด่วนงามวงศ์วาน-พระราม 9"

20 มิ.ย. 2567 | 01:00 น.
อัปเดตล่าสุด :20 มิ.ย. 2567 | 03:57 น.

“สุริยะ” กางแผน "ลดค่าทางด่วน" ไม่เกิน 50 บาท ปักหมุดประชาชนเตรียมใช้ปีนี้ หวังลดค่าใช้จ่ายการเดินทาง ลุยขยายสัมปทานทางด่วนงามวงศ์วาน-พระราม 9 เร่งตอกเสาเข็มภายใน 3 ปี มั่นใจไม่ได้เอื้อเอกชน

นายสุริยะ  จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำหรับความคืบหน้าการให้หาแนวทาง "ลดค่าทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2" สายงามวงศ์วาน-พระราม 9 ไม่เกิน  50 บาทตลอดสายในเส้นทาง เพื่อช่วยเหลือประชาชนในการลดค่าใช้จ่ายการเดินทาง เบื้องต้นการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) อยู่ระหว่างการหารือร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะเห็นความชัดเจน โดยเริ่มให้ประชาชนได้ใช้บริการภายในปี 2567 

 

ทั้งนี้การลดค่าทางด่วนในอัตราไม่เกิน 50 บาทตลอดสายของทางด่วนบริเวณสายงามวงศ์วาน-พระราม 9  ทาง กทพ. จะมีการประเมินผลการดำเนินงานทุก ๆ 5 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ตามสถานการณ์ในขณะนั้น 
 

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า การจราจรที่ติดขัดช่วงสายงามวงศ์วาน-พระราม 9 และภาพรวมในบริเวณดังกล่าวจึงจำเป็นต้องเดินหน้าโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 สายงามวงศ์วาน-พระราม 9 (Double Deck) โดยเร่งผลักดัน เพื่อแก้ไขปัญหาการสัญจรที่ติดขัด ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 

 

ขณะเดียวกันการก่อสร้างโครงการดังกล่าว รัฐบาลไม่ต้องมีการลงทุนแต่อย่างใด โดยจะให้ทางผู้ประกอบการที่ได้รับสัมปทาน เป็นผู้ลงทุนทั้งหมด จึงต้องขยายสัญญาทางด่วนขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ไปอีก 22 ปี 5 เดือน โดยสัญญาที่เพิ่มมานั้นมาจากการคำนวณมูลค่าทางการเงิน และผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ตามหลักวิชาการ และความเป็นธรรม ซึ่งยืนยันได้ว่าจะไม่ได้เอื้อผลประโยชน์ให้กับผู้ประกอบการและสามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ทั้งหมด ทั้งนี้หากมีการก่อสร้าง คาดใช้ระยะเวลา ประมาณ 3 ปี และจะให้ประชาชนได้ใช้บริการต่อไป
 

“ยืนยันว่าการดำเนินการในเรื่องนี้ ไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนอย่างแน่นอน แต่ต้องการทำเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ช่วยลดภาระค่าครองชีพ และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ตนได้ให้นโยบายและเน้นย้ำว่า ทุกกระบวนการในการดำเนินงานนั้นตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเคร่งครัด มีความละเอียดรอบครอบ โปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้" นายสุริยะ กล่าว