นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า สำหรับความคืบหน้าโครงการ”เงินดิจิทัลวอลเล็ต” ก็ได้มอบหมายให้เจ้าที่หน้ารวบรวมข้อมูลร้านค้าไว้ และจะมีการประชุมคณะกรรมการฯ จึงจะมีการกำหนดไทม์ไลน์ต่าง ๆ อาทิ ขั้นตอนลงทะเบียน ร้านค้าที่ร่วมโครงการ คาดว่าภายใน 3 เดือนจะเห็นเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
ปัจจุบันได้มอบหมายกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้รวบรวมร้านค้าโชห่วย ที่มีการขึ้นทะเบียนไว้ รวมถึงพูดคุยกับสมาคมโชห่วย เพื่อผลักดันให้ร้านค้าในระบบเข้าร่วมโครงการได้มากที่สุด
“กรณีที่โทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงร้านสะดวกซื้อ 7-11 ห้างต่าง ๆ สามารถเข้าร่วมโครงการได้ไหมนั้น ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ ก็ต้องดูความเหมาะสมและข้อกำหนดต่าง ๆ หากมีข้อสรุปที่ชัดเจนจึงจะมีชี้แจงอีกรอบ”
นอกจากนี้ ยังเตรียมสนับสนุนให้ ร้านธงฟ้า ทั่วประเทศ เข้าร่วมโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต สำหรับการลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของทั้งประชาชนและร้านค้าปลีกของโครงการนี้ คาดว่าจะเปิดลงทะเบียนผ่าน Super App และคาดว่าจะเริ่มใช้สิทธิโครงการดิจิทัลวอลเล็ตได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้
รายงานข่าวจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุว่า ร้านค้าโชห่วยที่มีการทะเบียนเป็นนิติบุคคล และกำลังดำเนินกิจการอยู่ทั้งหมด 301,521 รายทั่วประเทศ แบ่งออกเป็น ภาคกลาง ร้านค้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้านค้า ภาคเหนือ ร้านค้า ภาคใต้ ร้านค้า แบ่งจังหวัดที่มีร้านโช่ห่วยจำนวนมาก
กรุงเทพฯ 109,742 ราย , กาญจนบุรี 1,599 ราย , ชัยนาท 540 ราย, นครปฐม 5,559 ราย, นนทบุรี 18,508 ราย , ปทุมธานี 15,876 ราย, พระนครศรีอยุธยา 3,275 ราย, ราชบุรี 2,416 ราย, ลพบุรี 1,342 ราย, สมุทรปราการ 18,654 ราย, สมุทรสงคราม 547 ราย, สระบุรี 2,244 ราย, สมุทรสาคร 6,765 ราย , อ่างทอง 580 ราย, สิงห์บุรี 409 ราย, อุทัยธานี 415 ราย, สุพรรณบุรี 1,680 ราย, จันทบุรี 1,921 ราย, ฉะเชิงเทรา 2,477 ราย, ชลบุรี 14,173 ราย, ตราด 478 ราย, นครนายก 548 ราย, สระแก้ว 1,088 ราย , ระยอง 5,125 ราย, นครสวรรค์ 1,990 ราย, ปราจีนบุรี 1,315 ราย
กาฬสินธุ์ 956 ราย, ขอนแก่น 4,477 ราย, ชัยภูมิ 1,227 ราย , นครพนม 806 ราย, นครราชสีมา 5,800 ราย, บึงกาฬ 559 ราย, บุรีรัมย์ 1,662 ราย, มหาสารคาม 1,190 ราย, มุกดาหาร 600 ราย, ยโสธร 625 ราย, ร้อยเอ็ด 1,508 ราย, เลย 891 ราย, ศรีสะเกษ 1,350 ราย, สกลนคร 1,506 ราย, สุรินทร์ 1,554 ราย, หนองคาย 1,002 ราย, หนองบัวลำภู 511 ราย, อำนาจเจริญ 399 ราย, อุดรธานี 2,874 ราย, อุบลราชธานี 2,445 ราย
กำแพงเพชร 1,086 ราย, เชียงราย 3,480 ราย, เชียงใหม่ 9,144 ราย, ตาก 1,332 ราย, น่าน 671 ราย, พะเยา 828 ราย, พิจิตร 810 ราย , พิษณุโลก 2,046 ราย, เพชรบูรณ์ 1,308 ราย, แพร่ 740 ราย, แม่ฮ่องสอน 243 ราย, ลำปาง 1,411 ราย, ลำพูน 1,440 ราย, สุโขทัย 686 ราย, อุตรดิตถ์ 640 ราย
กระบี่ 1,043 ราย , ชุมพร 1,146 ราย, ตรัง 1,059 ราย , นครศรีธรรมราช 2,791 ราย,นราธิวาส 641 ราย, ประจวบคีรีขันธ์ 1,509 ราย , ปัตตานี 633 ราย, พังงา 560 ราย, พัทลุง 734 ราย, ภูเก็ต 3,901 ราย, ยะลา 637 ราย, ระนอง 535 ราย, สุราษฎร์ธานี 3,283 ราย, สงขลา 4,455 ราย, สตูล 331 ราย
รายงานข่าวจาก กรมการค้าภายใน ระบุว่า ร้านค้าธงฟ้าที่กระทรวงพาณิชย์ดูแล และมีการดำเนินการอยู่รวมทั้งสิ้น 146,531ร้านค้า แบ่งออกเป็น ภาคกลาง 32,461 ร้านค้า ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 60,533 ร้านค้า ภาคเหนือ 35,553 ร้านค้า ภาคใต้ 26,030 ร้านค้า โดยจังหวัดที่มีร้านค้าธงฟ้าจำนวนมาก
กรุงเทพฯ 4,445 ร้านค้า, กาญจนบุรี 1,322 ร้านค้า , ชัยนาท 902 ร้านค้า, นครปฐม 1,073 ร้านค้า, นนทบุรี 1,591 ร้านค้า , ปทุมธานี 1,285 ร้านค้า, พระนครศรีอยุธยา 1,433 ร้านค้า, ราชบุรี 1,155 ร้านค้า, ลพบุรี 1,686 ร้านค้า, สมุทรปราการ 1,172 ร้านค้า, สมุทรสงคราม 503 ร้านค้า, สระบุรี 1,125 ร้านค้า, สมุทรสาคร 562 ร้านค้า, อ่างทอง 667 ร้านค้า, สิงห์บุรี 494 ร้านค้า, อุทัยธานี 872 ร้านค้า, สุพรรณบุรี 1,493 ร้านค้า, จันทบุรี 778 ร้านค้า, ฉะเชิงเทรา 1,067 ร้านค้า, ชลบุรี 1,980 ร้านค้า, ตราด 504 ร้านค้า, นครนายก 462 ร้านค้า, สระแก้ว 1,210 ร้านค้า, ระยอง 1,064 ร้านค้า, นครสวรรค์ 2,982 ร้านค้า , ปราจีนบุรี 1,116 ร้านค้า,
กาฬสินธุ์ 2,817 ร้านค้า, ขอนแก่น 4,896 ร้านค้า, ชัยภูมิ 3,443 ร้านค้า, นครพนม 1,914 ร้านค้า, นครราชสีมา 4,916 ร้านค้า, บึงกาฬ 969 ร้านค้า, บุรีรัมย์ 3,913 ร้านค้า, มหาสารคาม 2,357 ร้านค้า, มุกดาหาร 1,445 ร้านค้า, ยโสธร 1,464 ร้านค้า, ร้อยเอ็ด 3,409 ร้านค้า, เลย 1,734 ร้านค้า, ศรีสะเกษ 4,508 ร้านค้า, สกลนคร 3,145 ร้านค้า, สุรินทร์ 3,783 ร้านค้า, หนองคาย 1,176 ร้านค้า, หนองบัวลำภู 1,640 ร้านค้า, อำนาจเจริญ 1,262 ร้านค้า, อุดรธานี 2,972 ร้านค้า, อุบลราชธานี 5,314 ร้านค้า
กำแพงเพชร 2,305 ร้านค้า, เชียงราย 3,394 ร้านค้า, เชียงใหม่ 4,153 ร้านค้า, ตาก 1,734 ร้านค้า, น่าน 1,612 ร้านค้า, พะเยา 1,770 ร้านค้า, พิจิตร 1,235 ร้านค้า, พิษณุโลก 1,745 ร้านค้า, เพชรบูรณ์ 2,644 ร้านค้า, แพร่ 1,454 ร้านค้า, แม่ฮ่องสอน 950 ร้านค้า, ลำปาง 2,211 ร้านค้า, ลำพูน 1,163 ร้านค้า, สุโขทัย 2,134 ร้านค้า, อุตรดิตถ์ 1,171 ร้านค้า
กระบี่ 1,112 ร้านค้า , ชุมพร 890 ร้านค้า, ตรัง 1,948 ร้านค้า ,นครศรีธรรมราช 3,605 ร้านค้า,นราธิวาส 3,375 ร้านค้า , ประจวบคีรีขันธ์ 575 ร้านค้า , ปัตตานี 2,136 ร้านค้า, พังงา 701 ร้านค้า, พัทลุง 2,053 ร้านค้า, ภูเก็ต 358 ร้านค้า, ยะลา 1,714 ร้านค้า, ระนอง 609 ร้านค้า, สุราษฎร์ธานี 2,204 ร้านค้า, สงขลา 3,389 ร้านค้า, สตูล 1,254 ร้านค้า