นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยถึงประเด็นที่รัฐบาลเตรียมออกมาตรการลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม 3% เป็นระยะเวลา 3 เดือน เพื่อประคองการจ้างงานกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ซึ่งจะช่วยลดภาระผู้ประกอบการระยะสั้น และเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นสถานการณ์เศรษฐกิจและการจ้างงานในปัจจุบัน
ทั้งนี้ การผลักดันนโยบายเพื่อหาทางออกและทางรอดของเอสเอ็มอี (SMEs) และแรงงานที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยกับความเสี่ยงของเอสเอ็มอีโดยเฉพาะรายย่อย วิสาหกิจชุมชนและเกษตรกรที่ฝ่าสารพัดมรสุมกับดักความเหลื่อมล้ำที่ไม่ใช่ปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจ
แต่เป็นต้นตอปัญหาที่มาจากแนวคิดการออกแบบกลไกการนโยบายที่ไม่กระจายอำนาจ กระจายโอกาส กระจายรายได้ เน้นผลงานเฉพาะหน้าที่เอื้อกับพวกพ้องกลุ่มทุนใหญ่ เอาใจทุนนอกจนหลงลืมทุนใน ท่ามกลางทุนเสรีนิยมที่ขาดมาตรการรองรับและเชิงรุกในการยกระดับกำลังคนของประเทศทุกช่วงวัย
อย่างไรก็ดี หากต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงต้องกำหนดแผนยุทธศาสตร์ กลยุทธ์เชื่อมโยง บูรณาการภารกิจหน้าที่ร่วมกันของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาสังคมเพื่อรองรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13
และเกี่ยวข้องกับ 4 หมุดหมายที่สำคัญ คือ หมุดหมายที่ 7 เอสเอ็มอีที่เข้มแข็ง มีศักยภาพ แข่งขันได้ หมุดหมายที่ 9 ความยากจนข้ามรุ่นและความคุ้มครองทางสังคม และหมุดหมายที่ 12 กำลังคนที่มีสมรรถนะสูง
รวมทั้งหมุดหมายที่ 13 การมีภาครัฐที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ประชาชนซึ่งเราจะสามารถพลิกโฉมประเทศ ให้โอกาสเติมเต็มช่องว่างความเสมอภาคเศรษฐกิจและสังคมที่จะนำไปสู่ความยั่งยืนให้กับประชาชนและประเทศไทยในอนาคต