ความคืบหน้าในการประมูลข้าวสาร 10 ปี ในสต๊อกรัฐบาลจำนวน 15,000 ตัน จากโครงการรับจำนำข้าว สมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่า บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด จังหวัดกำแพงเพชร จะเสนอราคาประมูลสูงสุดมูลค่ารวม 286,302,619.64 บาท
แต่มีการตรวจสอบพบว่าบริษัทที่ยื่นประมูลข้าวครั้งนั้น 3 บริษัท ขาดคุณสมบัติผู้เข้าประมูลข้าว ประกอบด้วย บริษัท วี เอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด บริษัท ธนสรร ไรซ์ จำกัดและ บริษัท เอส. เอส. เอ็ม. อาร์. การเกษตร จำกัด
เนื่องจากเป็นผู้ที่ได้ทำความเสียหายให้แก่ อคส. และถูก อคส. ฟ้องคดีเรียกค่าเสียหายตามสัญญารับฝากเก็บรักษา มันเส้น ข้าวสาร และสัญญาจ้างตรวจสอบ และรับผิดชอบคุณภาพข้าว ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง
ทางอคส. จึงขอมอบหมายให้ คณะทำงานรับ – เปิดซองและต่อรองราคาข้าวในสต๊อกของรัฐ พิจารณาผู้เสนอซื้อ ที่มีคุณสมบัติถูกต้อง ครบถ้วน และต่อรองราคากับผู้เสนอซื้อราคาสูงสุดในแต่ละคลังให้ใกล้เคียงกับผู้เสนอราคาสูงสุดที่เสนอซื้อเมื่อ วันที่ 17 มิถุนายน 2567
จากการตรวจสอบของฐานเศรษฐกิจพบว่าผู้ประมูลข้าวที่เสนอราคาสูงสุดในคลังแรก ที่เก็บไว้ในคลังกิตติชัย หลัง 2 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับ มีรวมปริมาณข้าวทั้งสิ้น 11,656 ตัน มีบริษัทเสนอราคา ดังนี้
เมื่อ 3 บริษัทข้างต้นถูกวินัจฉัยว่า ขัดคุณสมบัติ บริษัทที่มีการเสนอซื้อข้าว 10 ปี ในสต๊อกของรัฐบาลที่มีการเสนอราคาสูงสุดอันดับ 2 คือ บริษัท สหธัญ จำกัด จังหวัดนครปฐม มูลค่า 62,734,711.23 บาท เฉลี่ย 18,690 บาทต่อตัน จึงเข่าข่ายที่จะได้รับการต่อรองราคาให้เป็นผู้ชนะการประมูล
ขณะที่ข้าวคลังที่ 2 ที่เก็บไว้ในโกดังของ บริษัท พูนผลเทรดดิ้ง จำกัด จำนวน 3,356 ตัน หรือ 32,879 กระสอบมีบริษัทเสนอราคาดังนี้
ในคลังนี้บริษัทที่มีการเสนอซื้อข้าว 10 ปี ในสต๊อกของรัฐบาลที่มีการเสนอราคาสูงสุดอันดับ 3 คือ บริษัท ทรัพย์แสงทองไรซ์ จำกัด จังหวัดสุพรรณบุรี 182,046,000 บาท เฉลี่ย 15,617.35 บาทต่อตัน จะได้รับการต่อรองราคาให้เป็นผู้ชนะการประมูล