รัฐบาลแจง เฉือนงบกลาง 4.3 หมื่นล้าน โปะเงินดิจิทัล ไม่กระทบรับมือภัยพิบัติ
“จักรพงษ์ แสงมณี รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี” โต้ "ศิริกัญญา" เฉือนงบกลาง 4.3 หมื่นล้าน โปะนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ไม่กระทบรับมือภัยพิภัย 1.5 หมื่นล้าน ยืนยัน สำนักงบประมาณ-กฤษฎีกา ตีความ การันตี ทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย
นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงบประมาณ แถลงที่ทำเนียบรัฐบาลวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 กรณีน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีถึงการใช้งบกลาง เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปี 67 สำหรับดำเนินนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 4.3 หมื่นล้านบาท ส่งผลกระทบให้ไม่สามารถนำมาใช้ออกมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน
นายจักรพงษ์กล่าวว่า การนำงบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่มีอยู่ทั้งสิ้น 9.96 หมื่นล้านบาท มาจัดสรรเพื่อทำโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต จำนวน 4.3 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 40 % ของวงเงินงบกลาง ฯ ได้มีการพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว และยังเหลือวงเงินอีก 1.5 หมื่นล้านบาท สำหรับรองรับกรณีเกิดภัยพิบัติฉุกเฉินในช่วงที่เหลือของปีงบประมาณ 2567 ซึ่งถ้าเราดูจากประวัติต่างๆ จะอยู่ที่ระดับหลักพันล้านบาท
นายจักรพงษ์กล่าวว่า ขณะเดียวกัน เนื่องจากการเริ่มใช้งบประมาณปี 2567 ล่าช้ามา 4-5 เดือน จึงให้กระทรวงต่างๆ ที่เตรียมของบกลางกลับไปใช้งบภายในกระทรวงตัวเอง และการนำงบกลางมาใช้ในโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตนั้น สำนักงบประมาณได้หารือกับเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วว่าสามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม ที่ออกมาชี้แจงในครั้งนี้ เพราะอยากให้สังคมเข้าใจว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับประชาชน ไม่ได้เก็บงบกลางนี้ไว้สำหรับโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต แต่มีการบริหารจัดการที่มั่นใจว่าเราสามารถใช้ได้ และไปกระตุ้นเศรษฐกิจได้เหมือนกัน
นายจักรพงษ์ เปิดเผยถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ว่า เป็นเรื่องของยาเสพติด ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นพิเศษ โดยใช้เวลาแค่ 6-7 เดือนในปี 2567 สามารถจับกุมได้มากกว่าปีที่แล้วทั้งปี นายเศรษฐาจะลงพื้นที่ไหนให้ความสำคัญกับเรื่องยาเสพติดมาก จึงหาแนวทางปรึกษากันเองภายใน ครม.ของพรรคเพื่อไทย ดูว่าเรามีวิธีการอย่างไรกันบ้างในการที่จะปราบปรามยาเสพติดให้ได้มากกว่านี้