วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 ที่รัฐสภา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นถามกระทู้ถามสด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ถึงการเปลี่ยนแปลงแหล่งที่มาของงบประมาณในการดำเนินนโยบายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จากวงเงิน 5 แสนล้านบาท เหลือ 4.5 แสนล้านบาท โดยไม่ใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.)
นายเศรษฐาลุกขึ้นตอบกระทู้ว่า งบประมาณเงินดิจิทัลวอลเลตส่วนหนึ่งมาจาก งบกลาง ปี 67 ซึ่งรัฐบาลกันไว้ 43,000 ล้านบาท ส่วนที่บอกว่าลดวงเงินจาก 5 แสนล้านบาท เหลือ 4.5 แสนล้านบาท เราดูจากสถิติเก่าจากรัฐบาลที่ผ่านมา ที่มีการแจกเงิน มีการไม่เข้าใช้สิทธิกี่คน แต่รัฐบาลก็พยายามเตรียมงบประมาณไว้ให้เต็มที่ ซึ่งในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้จะมีความชัดเจนมากขึ้นในเรื่องของงบประมาณและประเภทสินค้าที่จะออกมา
“งบประมาณตรงนี้เรามั่นใจว่า เราจะพินิจ วิเคราะห์ให้อย่างดีจะต้องโดนจุด เป็นไปตามกฎหมาย และซื่อสัตย์สุจริต เป็นไปตามกฎกติกาในการใช้งบประมาณที่ถูกต้อง”นายเศรษฐากล่าวว่า
น.ส.ศิริกัญญาลุกขึ้นถามเป็นครั้งที่สอง ว่า พอนายกรัฐมนตรีตอบว่า ต้องใช้งบกลางปี 67 วงเงิน 4.3 หมื่นล้านบาท เพื่อที่จะทำดิจิทัลวอลเลตก็ทำให้ปริศนาทุกอย่างกระจ่างขึ้น
“เพราะว่า ที่ผ่านมาการบริหารราชการแผ่นดิน 10 เดือนแล้ว เรามีข้อสังเกตว่า ในงบกลางของปี 67 แทบจะไม่ได้อนุมัติเลย แล้วมีความเดือดร้อนของประชาชนหลายเรื่องที่รอการแก้ไข แต่กลับไม่มีอะไรออกมาเลยในช่วงระยะเวลานี้ เป็นเพราะว่า ท่านต้องเก็บเงินก้อนนี้เอาไปใช้เพื่อเงินดิจิทัลวอลเลตนั่นเอง”น.ส.ศิริกัญญากล่าว
น.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า สำหรับงบกลางปี 67 วงเงิน 9.8 หมื่นล้านบาท อนุมัติไปเพียง 1.4 หมื่นล้านบาทเท่านั้นเอง ที่ต้องกังวลเพราะมีปัญหาของประชาชนที่มากกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจ คือ ปัญหาค่าครองชีพประชาชน เช่น ราคาน้ำมัน ไข่ไก่ ไก่สด หมู ค่าไฟฟ้า
“คำถามคือ มีการของบกลางเพื่อพยุงราคาน้ำมัน 6,500 ล้านบาท แต่ท่านไม่อนุมัติ ทั้งที่งบกลางก็ไม่ได้ใช้ ส่วนการแก้ปัญหาเศรษฐกิจฝืดเคืองก็อาจจะมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำออกมาบ้าง ค้ำประกันสินเชื่อ แต่ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่คนเดือดร้อน คนที่จะต้องเปลี่ยนธุรกิจไปทำอย่างอื่น ไม่มีการออกสินเชื่อการปรับเปลี่ยนธุรกิจ ไม่มีการออกสินเชื่อเพื่อยกเครื่องเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามา”น.ส.ศิริกัญญากล่าว
นายเศรษฐากล่าวว่า ขอยืนยันว่า เรามีการใช้งบกลางเพื่อดูแลค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้าไป และอีกหลายเรื่อง เช่น การเกษตร การบริหารจัดการน้ำไม่ให้ท่วม ไม่ให้แล้ง การสร้างถนน การดูแลสถานพยาบาลต่าง ๆ
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ปรับกรอบแหล่งเงินดำเนินโครงการเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท จากเดิม 5 แสนล้านบาท เหลือ 4.5 แสนล้านบาท เพื่อให้สอดคล้องกับข้อมูลที่ศึกษาข้างต้นมีผู้ใช้สิทธิไม่เกิน 90% อย่างไรก็ดียังตั้งเป้าหมายจำนวนผู้มาใช้สิทธิ 50 ล้านคน
สำหรับแหล่งเงินที่จะนำมาใช้สำหรับดำเนินโครงการดิจิทัล 4.5 แสนล้านบาท ดังนี้
แหล่งข่าวระดับสูงทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า สำหรับแหล่งเงินจากการบริหารจัดการงบประมาณปี 68 วงเงิน 1.32 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่จะมาจาก เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 95,300 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นการหั่นงบประมาณโครงการปีเดียวและผูกพันในปี 68 ของหน่วยงานที่มีการกันเบิกจ่ายเหลื่อมปี 67 โครงการปีเดียวหรือโครงการใหม่ที่ก่อนหนี้ผูกพันไว้แต่ทำไม่ทัน จนต้องมาทำในปีงบประมาณปี 68