กรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการ “ปรับฐานเงินเดือนครูเอกชน” โดยการปรับเพิ่มเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน รายการเงินอุดหนุนรายบุคคล ในส่วนของเงินสมทบเป็น "เงินเดือนครู" สำหรับนักเรียนโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้เสนอความเห็นในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปรับฐานเงินเดือนครูเอกชน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนและสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี โดยระบุว่า
สำนักงาน ก.พ.ร. พิจารณาแล้ว เห็นด้วยในหลักการของการปรับเพิ่มเงินอุดหนุนค่าใช้จ่าย ในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน รายการเงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครูในสถานศึกษาเอกชน ซึ่งเป็นการปรับฐานเงินเดือนครูสำหรับการคำนวณอัตราอุดหนุนนักเรียนต่อคนต่อปี
ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566เรื่อง รายงานผลการศึกษาตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 (เรื่อง การปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำและการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ) เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจและส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพแทนรัฐมากขึ้นผ่านการปรับฐานเงินเดือนครูเอกชน
โดยมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับฐานเงินเดือนครูเอกชน ควรพิจารณาเงินอุดหนุนฯ เฉพาะสถานศึกษาที่มีนักเรียนไม่เกิน 120 คน เพื่อให้สอดคล้องกับเกณฑ์การจำแนกขนาดสถานศึกษาของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พร้อมทั้งควรคำนวณด้วยอัตราครูต่อนักเรียนของสถานศึกษาขนาดเล็ก ตามเกณฑ์อัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษาตามที่คณะกรรมการข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษากำหนด เพื่อสร้างมาตรฐานที่เป็นธรรมในการจัดสรรทรัพยากรของรัฐอย่างเท่าเทียม สำหรับจัดการศึกษาของรัฐและเอกชน
ทั้งนี้ ควรกำหนดเงื่อนไขปรับเพิ่มให้เฉพาะสถานศึกษาเอกชนที่สามารถจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพได้มาตรฐานตามแนวทางการรับรองมาตรฐานและการประเมินคุณภาพการศึกษาที่กฎหมายกำหนด เพื่อความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพในการใช้งบประมาณค่าใช้จ่ายภาครัฐ
สำหรับ มติครม. ครั้งนี้ เป็นการปรับฐานเงินเดือนครูเอกชน โดยปรับฐานเงินเดือนครู ในการคำนวณเงินอุดหนุน จากอัตรา 15,050 บาท เป็นอัตรา 18,150 บาท ภายในระยะเวลา 2 ปี เริ่มดำเนินการเดือนพฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป เพื่อเป็นไปตามแนวทางการปรับเพิ่มเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาพื้นฐาน รายการเงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครู
โดยเป็นการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (26 มิถุนายน 2550) หลังจากอนุมัติหลักการให้การอุดหนุนเป็นเงินรายหัวนักเรียนโรงเรียนเอกชนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งรวมถึงเงินสมทบเป็นเงินเดือนครู โดยมีการปรับเพิ่มเงินสมทบเป็นเงินเดือนครูได้ในกรณีปรับเพิ่มในอัตราเดียวกันกับการปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการ
นอกจากนี้ยังขออนุมัติการอุดหนุนเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็ก (จำนวนนักเรียนไม่เกิน 200 คน) ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 ถึงเดือนกันยายน 2570 และมอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการศึกษาแนวทางการให้ความช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนขนาดเล็กที่มีความเหมาะสมต่อไป รวมทั้งขอความเห็นชอบในหลักการให้ใช้งบประมาณสำหรับดำเนินการดังกล่าวด้วย