"จุฬาฯ" ยกระดับความรู้ทางด้านปัญญาประดิษฐ์ มุ่งขึ้นแท่น AI University
"จุฬาฯ" ยกระดับความรู้ทางด้านปัญญาประดิษฐ์ มุ่งขึ้นแท่น AI University เดินหน้าจัดงาน Chulalongkorn University President’s Distinguished Speakers สร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับชาติและนานาชาติ
ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร ผู้รักษาการอธิการบดี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่าได้ดำเนินการร่วมกับหลักสูตรสหสาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมผู้ประกอบการ (CUTIP) บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาฯ เพื่อยกระดับความรู้ทางด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ผ่านการจัดงาน Chulalongkorn University President’s Distinguished Speakers ครั้งที่ 2
"การจัดงานดังกล่าวเพื่อให้ความรู้และสร้างแรงบันดาลใจจากผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ส่งเสริมการเป็นสากลของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับชาติและนานาชาติ รวมถึงแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับผู้บรรยายและผู้เข้าร่วมงาน ซึ่งจะจะช่วยเสริมสร้างความรู้และทักษะในด้านต่างๆ โดยถือเป็นก้าวสำคัญของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และนวัตกรรม มุ่งสู่การเป็น AI University"
Dr. Andrew Ng ผู้ทรงอิทธิพลคนสำคัญของโลกด้านปัญญาประดิษฐ์ Adjunct professor จาก Stanford University กล่าวว่า ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา (AI advancements in the past decade) โดยเฉพาะในช่วงปี 2010-2020 ซึ่งเป็นยุคทองของการฝึกฝน Large Scale Supervised Learning ขณะทำงานที่ Google Brain การเพิ่มขนาดของข้อมูลและโมเดลจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โมเดลเหล่านี้ถูกนำไปใช้ใน Application ต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนมากมาย ตั้งแต่การกรองสแปม (Spam Filtering) ไปจนถึงการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ (Self-Driving Cars)
ทั้งนี้ เชื่อว่า AI สามารถช่วยลดต้นทุนและสร้างการเติบโตได้ในเวลาเดียวกัน โดยแรงงานที่มีความรู้ จะเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจาก Generative AI มากที่สุด แต่ AI จะเข้ามาแทนที่งานบางส่วนเท่านั้น ตัวอย่างการใช้งาน Generative AI ได้แก่ การถามตอบคำถาม การช่วยเขียนบทความ และการสรุปงานต่างๆ
ซึ่งการเขียน Prompt ที่มีขั้นตอนชัดเจนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ GPT ได้อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ AI มีบทบาทสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมต่างๆ ในประเทศไทย เช่น การดูแลสุขภาพ การท่องเที่ยว และการเกษตร ซึ่งสามารถนำ AI มาใช้ในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน