ครม.ลดภาษีบุคคลธรรมดาเหลือ 17% ดึงคนไทยหัวกะทิ กลับทำงานในประเทศ

30 ก.ค. 2567 | 06:05 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ก.ค. 2567 | 06:11 น.

ครม.เห็นชอบมาตรการภาษีในการสนับสนุนคนไทยที่มีศักยภาพที่ทำงานในต่างประเทศให้กลับเข้ามาทำงานในประเทศ โดยลดภาษีบุคคลธรรมดาเหลือ 17% ส่วนนายจ้าง เอาค่าใช้จ่ายหักภาษีได้เพิ่มเป็น 1.5 เท่า

วันนี้ (30 กรกฎาคม 2567) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบมาตรการภาษีสนับสนุนคนไทยที่มีศักยภาพที่ทำงานในต่างประเทศให้กลับเข้ามาทำงานในประเทศ โดยอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อดึงดูดคนไทยที่มีศักยภาพสูงและมีความเชี่ยวขาญในสาขาตามความต้องการของอุตสาหกรรมเป้าหมาย ให้กลับเข้ามาทำงานในประเทศ 

สำหรับสาระสำคัญของมาตรการภาษีในการสนับสนุนคนไทยที่มีศักยภาพที่ทำงานในต่างประเทศให้กลับเข้ามาทำงานในประเทศ แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ

1.กรณีลูกจ้าง ให้ลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในการหักภาษี ณ ที่จ่ายเหลืออัตรา 17% ของเงินได้ สำหรับเงินได้พึงประเมิน สำหรับคนไทยที่เป็นแรงงานของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมายซึ่งได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันฯ กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน หรือกฎหมายว่าด้วยเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก 

2.กรณีนายจ้าง ให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมายซึ่งได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุนหรือกฎหมายว่าด้วยเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก สามารถหักรายจ่ายเงินเดือนตามสัญญาจ้างแรงงานของลูกจ้างซึ่งมีคุณสมบัติตามที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนดที่จ่าย จากเดิม 1 เท่า เป็น 1.5  เท่า 

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า มาตรการภาษีในการสนับสนุนคนไทยที่มีศักยภาพที่ทำงานในต่างประเทศให้กลับเข้ามาทำงานในประเทศ ครั้งนี้ จะมีผลใช้บังคับ 5 ปี นับตั้งแต่มีการประกาศ ซึ่งคาดว่ามาตรการจะมีผลบังคับใช้ในปี 2567 นี้