วันนี้ (30 กรกฎาคม 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยกระทรวงการคลังในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการนโยบายเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เตรียมเสนอรายละเอียดต่าง ๆ ของโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต ให้ที่ประชุมครม.เห็นชอบ ก่อนจะเปิดให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการในระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม ถึง 15 กันยายน 2567 ต่อไป
สำหรับโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท นั้น กระทรวงการคลังได้กำหนดไทม์ไลน์ของโครงการไว้เรียบร้อยแล้ว หลังจากผ่านการเห็นชอบจากบอร์ดเงินดิจิทัลวอลเล็ต ชุดใหญ่ โดยเปิดให้ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ในระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม ถึง 15 กันยายน 2567 และมีกำหนดการที่จะให้เริ่มใช้จ่ายในโครงการฯ ภายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2567
กระทรวงการคลัง กำหนดการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
1.ประชาชนทั่วไป
กำหนดการลงทะเบียนประชาชนทั่วไป ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม - 15 กันยายน 2567 จะดำเนินการ ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” บนสมาร์ตโฟน โดยไม่มีการจำกัดจำนวนประชาชนที่จะเข้าร่วมใช้สิทธิ์ในโครงการฯ ซึ่งรัฐบาลได้ประมาณการไว้จำนวน 45 - 50 ล้านคน
2.กลุ่มที่ไม่มีสมาร์ตโฟน
กำหนดการลงทะเบียนประชาชนกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ตโฟน ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมการให้เข้าร่วมโครงการฯ ได้ในระยะต่อไป โดยจะให้มีการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านช่องทางที่กำหนด (ระหว่างวันที่ 16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2567) ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบคุณสมบัติ สถานะบุคคล และที่อยู่ตามทะเบียนบ้านเช่นเดียวกับกลุ่มผู้มีสมาร์ตโฟน
ส่วนของการใช้จ่ายนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาให้ใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชน แต่การใช้สิทธิซื้อสินค้าจากร้านค้าจะทไได้ในวงแคบกว่าการใช้สิทธิของประชาชนกลุ่มที่มีสมาร์ตโฟน
3.ลงทะเบียนร้านค้า
กำหนดการลงทะเบียนร้านค้า เบื้องต้นตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะแถลงข่าวเพิ่มเติม เพื่อระบุเกี่ยวกับคุณสมบัติของร้านค้า ช่องทางและวิธีการสมัครเข้าร่วมโครงการฯ และเงื่อนไขอื่น ๆ ให้รับทราบต่อไป
ส่วนคุณสมบัติประชาชนที่จะลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มีดังนี้
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุก่อนหน้านี้ว่า หลังจากรัฐบาลเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนผ่าน แอปพลิเคชันทางรัฐ โดยจะตรวจสอบสิทธิ์พร้อมกัน วันที่ 22 กันยายน 2567 และคาดว่าจะเริ่มใช้จ่ายภายในเดือนธันวาคม 2567 แน่นอน