ดร.ฉมาดนัย มากนวล ผู้อำนวยการ Business Risk and Macro Research ศูนย์วิจัย Krungthai Compass กล่าวแสดงความยินดีกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร (อุ๊งอิ๊ง) หัวหน้าพรรคเพื่อไทย หลังจากสภาผู้แทนราษฎร ลงมติเสียงส่วนมากโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย และถือเป็นเรื่องที่ดี ที่ทำให้หลายฝ่ายคลายความกังวลได้ว่าจะเกิดภาวะสุญญากาศกับเศรษฐกิจไทยที่กำลังอยู่ในช่วงที่เปราะบาง และต้องจับตาเป็นพิเศษ
สำหรับช่วงที่เหลือของปีนี้ มองว่า ก็ยังคงมีความท้าทาย เช่น ความเป็นไปได้สูงที่งบประมาณ 67 จะถูกเบิกจ่ายได้ไม่ครบ หากมีงบค้างท่อ ก็จะส่งผลต่อการเติบโตเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี นอกจากนี้ ยังมีประเด็นท้าทายที่รอนายกฯคนใหม่ขึ้นมาสะสาง เช่น สถานการณ์ปิดโรงงาน , การส่งออกผันผวนสูง , การตีตลาดของสินค้าจีน และการเลือกตั้งสหรัฐฯ
“นอกจากงบปี 67 แล้ว ตัวงบปี 68 ก็เสี่ยงที่จะล่าช้า ซ้ำเติมช่วงสุดท้ายของปีพอสมควร ขณะที่ GDP Q1/67 ก็โตเพียง 1.5% ส่วนไตรมาส 2 คาดว่าจะดีขึ้นเล็กน้อย ความหวังจึงอยู่ที่ช่วงสุดท้ายของปีเท่านั้น”
ส่วนปัจจัยบวก ณ ปัจจุบนมองว่า มีเพียง ภาคการท่องเที่ยวและการผลิตสินค้าที่ส่วนมากจะเร่งตัวขึ้นในช่วงสิ้นปี ซึ่งจะสามารถช่วยรีบาวเศรษฐกิจกลับขึ้นมาได้ ส่วนปัจจัยที่ยังไม่มั่นใจคือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น จะออกมาได้หรือไม่ โดยเฉพาะโครงการดิจิทัล วอลเล็ต ทั้งนี้คาดว่า GDP ไทยปีนี้น่าจะเติบโตได้ราว 2.3%
ด้านนายบุรินทร์ อดุลวัฒนะ กรรมการผู้จัดการ และ Chief Economist บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า การได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ในระยะเวลาไม่นานนั้น ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเศรษฐกิจไทยจะไม่สุดมากนัก ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกภาคส่วนอยากเห็นความต่อเนื่องของนโยบายต่าง ๆ ที่จะออกมาในช่วงที่เหลือของปีนี้