"BOI" ชูไทยฮับลงทุนอาเซียน รุกดูดทุนเกาหลีอุตฯเทคโนโลยีชั้นสูงปักหลัก

27 ส.ค. 2567 | 03:12 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ส.ค. 2567 | 03:12 น.

"BOI" ชูไทยฮับลงทุนอาเซียน รุกดูดทุนเกาหลีอุตฯเทคโนโลยีชั้นสูงปักหลัก เดินหน้าร่วมมือรัฐ และเอกชนนำเสนอความพร้อมและศักยภาพของประเทศ ทั้งการเป็นฐานการผลิตและบริการ ศูนย์กลางด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ (BOI) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการร้างความเชื่อมั่นในฐานะศูนย์กลางการลงทุนในอาเซียนกับนักลงทุนจากประเทศเกาหลี

โดยได้ดำเนินการร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ,ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) ,บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ,บมจ. บี.กริม เพาเวอร์ ,บจ. ซีพีเอฟ ฟู้ด เน็ตเวิร์ก และกลุ่มผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรม ได้แก่ อมตะ ดับบลิวเอชเอ และสวนอุตสาหกรรม 304 จัดกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ 

ทั้งนี้ เพื่อนำเสนอความพร้อมและศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน ทั้งด้านการเป็นฐานการผลิตและบริการด้านต่าง ๆ ศูนย์กลางด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี ศูนย์กลางด้านดิจิทัล แหล่งที่ตั้งของสำนักงานภูมิภาค 
 

รวมถึงการเป็นศูนย์รวมบุคลากรทักษะสูงของภูมิภาค อีกทั้งยังได้ตอกย้ำว่ารัฐบาลใหม่ให้ความสำคัญกับการลงทุน และนโยบายส่งเสริมการลงทุนต่าง ๆ ยังคงมีความต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนเกาหลีด้วย 

"BOI" ชูไทยฮับลงทุนอาเซียน รุกดูดทุนเกาหลีอุตฯเทคโนโลยีชั้นสูงปักหลัก

นอกจากนี้ ยังได้จัดงานสัมมนา Thailand - Korea Investment Forum โดยมีวิทยากรจากภาครัฐ - เอกชน ร่วมให้ข้อมูลการลงทุน อัพเดทมาตรการใหม่ ๆ และชี้โอกาสในการร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทไทย โดยมีนักธุรกิจเกาหลีเข้าร่วมมากกว่า 160 บริษัท ทั้งจากอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ดิจิทัล การแพทย์ เทคโนโลยีชีวภาพ และพลังงานสะอาด 

และมีการจับคู่เจรจาธุรกิจมากกว่า 20 คู่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย และความสนใจจากกลุ่มธุรกิจเกาหลีที่เพิ่มสูงขึ้น หลังบริษัทรายใหญ่ของเกาหลีได้ตัดสินใจลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นบริษัทฮุนได มอเตอร์, ซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ และฮาร์แมน ในเครือซัมซุง  

อย่างไรก็ดี ยังได้ร่วมกันหารือกับผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทชั้นนำของเกาหลี 4 ราย ประกอบด้วย  

  • บริษัท Hyundai Motor ค่ายรถยนต์อันดับหนึ่งของเกาหลี ซึ่งได้รับการส่งเสริมผลิตรถยนต์ BEV และแบตเตอรี่ในไทยแล้วเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยครั้งนี้ บริษัทได้ย้ำความตั้งใจในการใช้ชิ้นส่วนในประเทศ รวมถึงแผนขยายการลงทุนสถานีชาร์จไฟฟ้าที่สามารถรองรับการใช้งานร่วมกับยี่ห้ออื่น ๆ ด้วย
  • บริษัท Korea Land & Housing  เป็นรัฐวิสาหกิจรายใหญ่ของเกาหลี มีบทบาทในการพัฒนาที่อยู่อาศัย เมืองใหม่ พื้นที่อุตสาหกรรม และเขตเศรษฐกิจพิเศษต่าง ๆ ทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ โดยมีแผนจะลงทุนพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในไทย เพื่อรองรับการลงทุนจากบริษัทเกาหลี โดยจะร่วมทุนกับบริษัทเอกชนไทยและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) นอกจากนี้ ยังได้ให้ความสนใจโครงการ Landbridge เนื่องจากบริษัทมีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สนามบินอินชอนและเมืองรอบ ๆ ด้วย
  • บริษัท SK Bioscience ในเครือ SK Group มีแผนจะลงทุนพัฒนาและผลิตวัคซีนป้องกันโรคระบาดในประเทศไทย ซึ่งเป็นความร่วมมือกับองค์การเภสัชกรรมและสถาบันวัคซีน โดยจะใช้ไทยเป็นฐานในการส่งออกวัคซีนไปยังประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน โครงการนี้จะช่วยสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพ และยังช่วยพัฒนาความสามารถของบุคลากรไทยในการผลิตวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงด้วย
  • บริษัท CJ BIO ในเครือ CJ Group ได้แจ้งความสนใจที่จะร่วมมือกับภาครัฐในการปรับปรุงกฎระเบียบสูตรอาหารสัตว์ เพื่อสร้างความยั่งยืนให้แก่เนื้อสัตว์แปรรูปของไทยในการส่งออกไปตลาดโลก โดยเฉพาะตลาดยุโรป นำไปสู่โอกาสการลงทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ของบริษัทในอนาคต รวมทั้งมีความสนใจลงทุนธุรกิจอื่น ๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพลาสติกชีวภาพ ซึ่งไทยมีความได้เปรียบด้านวัตถุดิบการเกษตร โดยเฉพาะอ้อยและมันสำปะหลัง

นายนฤตม์ กล่าวอีกว่า เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงและเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีขั้นสูงในหลายอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ เซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ แบตเตอรี่ ดิจิทัล เทคโนโลยีชีวภาพ รวมถึง Soft Power 

ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของประเทศไทย ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562 – มิถุนายน 2567) เกาหลีใต้มีการขอรับส่งเสริมการลงทุนรวม 148 โครงการ มูลค่ากว่า 62,700 ล้านบาท

โดยมีโครงการขนาดใหญ่ที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนในช่วงปีที่ผ่านมา เช่น โครงการผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าของกลุ่มซัมซุง ลงทุนกว่า 31,000 ล้านบาท  โครงการผลิตเครื่องเสียงของบริษัท ฮาร์แมน ในเครือซัมซุง ลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท และล่าสุด โครงการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ของกลุ่มฮุนได ลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท