เศรษฐกิจแย่ “กยศ.” เพิ่มวงเงินกู้ยืม 5.12 หมื่นล้านบาท สูงสุดในประวัติการณ์

06 ก.ย. 2567 | 10:23 น.
อัพเดตล่าสุด :06 ก.ย. 2567 | 10:24 น.

กยศ. ชี้เศรษฐกิจแย่ เพิ่มวงเงินกู้ยืมแก่นักเรียน-นักศึกษาเป็น 5.12 หมื่นล้าน สูงสุดในประวัติการณ์ ฝั่งยอดใช้หนี้ลดเหลือ 2.3 หมื่นล้านบาท

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า กยศ.ได้ขยายกรอบวงเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาปี 67  จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 4.83 หมื่นล้านบาท เป็น 5.12 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับนักศึกษาที่ต้องการเงินกู้จาก กยศ.

ซึ่งจากเดิมมีจำนวนนักศึกษาที่ต้องการเงินกู้ จำนวน 7.69 แสนราย  เพิ่มขึ้นเป็น 8.37 แสนราย ซึ่งถือว่าสูงสุดในประวัติการณ์ของ กยศ. โดยเป็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ขณะที่ปีการศึกษา 66   กยศ.ให้เงินกู้ราว 4.57 หมื่นล้านบาท สำหรับนักศึกษาจำนวน 7.51 แสนราย

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)

“จำนวนนักศึกษาที่ขอกู้ในปีการศึกษาดังกล่าวถือว่าเป็นจำนวนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่จัดตั้ง กยศ. เมื่อ 28 ปีที่แล้ว สาเหตุน่าจะมาจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการกู้จาก กยศ.ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 1 % เป็นการช่วยลดภาระให้แก่ผู้ปกครอง”

ส่วนการปรับโครงสร้างหนี้ของลูกหนี้ กยศ.ภายใต้กฎหมายใหม่ของ กยศ.ที่ลดเบี้ยปรับผิดนัดการชำระหนี้ลงเหลือ 0.5 % จากเดิมที่ 7.5 % และปลดภาระของบุคคลที่เป็นผู้ค้ำประกัน และปรับลำดับการตัดหนี้ใหม่ จากเดิมที่ต้องตัดภาระดอกเบี้ยค้างชำระก่อน แล้วจึงมาตัดดอกเบี้ยในงวดนั้นๆที่เหลือจึงมาตัดเงินต้น เป็นให้ตัดเงินต้นก่อน เหลือเท่าไรจึงมาตัดดอกเบี้ยในงวดนั้นๆ และสุดท้ายถ้ายังมีเงินเหลือจึงมาตัดภาระดอกเบี้ยค้างชำระ

“ยอดปรับโครงสร้างหนี้ นับจากเมื่อต้นปี จนถึงปัจจุบัน มีลูกหนี้ กยศ.ได้มายื่นขอปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้กฎหมายใหม่แล้ว 1.68 แสนราย จากลูกหนี้ผิดนัดทั้งหมด 2 ล้านราย  โดยในจำนวนลูกหนี้เหล่านี้มีจำนวนหนึ่งที่เมื่อใช้วิธีการลำดับการชำระหนี้ใหม่ ปรากฏว่ามีเงินที่ลูกหนี้จ่ายเกินมาและต้องนำส่งคืนลูกหนี้ คิดเป็นวงเงิน 2,000 ล้านบาท”

นายชัยณรงค์ กล่าวว่า เมื่อมีการปรับโครงสร้างหนี้ กยศ. จะขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ไปอีก 15 ปี ปลดภาระผู้ค้ำประกันทันที และให้ยกเบี้ยปรับที่ตั้งพักไว้ทั้งหมดเมื่อชำระหนี้เสร็จสิ้นภายใน 15 ปี สำหรับการรับเงินชำระหนี้ ปี 67 ได้รับทั้งสิ้น 2.33 หมื่นล้านบาทลดลงจากปีที่แล้ว 5 % 

ทั้งนี้ สาเหตุน่าจะมาจากการที่ลูกหนี้ของ กยศ.ซึ่งมีภาระหนี้หลายแห่ง จึงเหลือชำระหนี้ก้อนที่มีภาระดอกเบี้ยสูงก่อน ขณะที่ ดอกเบี้ย กยศ.ซึ่งคิดเพียง 1 % จึงเก็บไว้ชำระหลังสุด ดังนั้น ในปีงบประมาณ 68 กยศ.ได้ยื่นของบประมาณ เพื่อให้กู้เพื่อการศึกษา จำนวนกว่า 1 หมื่นล้านบาท แต่ในที่สุดถูกตัดทอนลงเหลือเพียง 3 พันล้านบาท แต่ กยศ.ยังมั่นใจว่าสามารถบริหารจัดการให้นักศึกษาที่ต้องการเงินกู้ทุกคนได้รับเงินกู้เรียนครบทุกคน

ขณะเดียวกัน จากข้อมูลของ กยศ.  ล่าสุด มีจำนวนผู้กู้ยืมตั้งแต่เริ่มให้กู้จนถึงปัจจุบัน 6.86 ล้านราย ในจำนวนนี้ 53% หรือ 3.63 ล้านราย อยู่ในระหว่างการชำระหนี้ , 18 %  หรือ 1.24 ล้านราย อยู่ในช่วงปลอดการชำระหนี้ (ยังอยู่ในระหว่างการศึกษาหรือยังไม่มีงานทำ) , 28 % หรือ 1.91 ล้านราย ชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว  และ 1 %  หรือ 7.34 หมื่นราย เสียชีวิต หรือทุพพลภาพ