"น้ำท่วมเชียงราย" ลามหนัก ตัวอ.เมืองจมน้ำทั้งหมดแล้ว ปลัดมท.สั่งช่วยด่วน

11 ก.ย. 2567 | 10:19 น.
อัปเดตล่าสุด :11 ก.ย. 2567 | 10:32 น.

น้ำท่วมเชียงราย ลามหนัก ตัวเมืองจมน้ำทั้งหมดแล้ว ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ เป็นการด่วนสั่งการช่วยเหลือประชาชน กระทบกว่า1,241 ครัวเรือน ช่วยเหลือ 24ชั่วโมง

 

ภาคเหนือของไทยต้องเผชิญกับอุทกภัยครั้งใหญ่สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้างและที่ได้รับผลกระทบซ้ำซากคือเชียงราย  เมืองชายขอบเหนือสุดแดนสยาม หลังจากร่องรอยน้ำท่วมใหญ่ยังไม่ทันจาง ล่าสุดได้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน

น้ำท่วมเชียงราย

 

จากอิทธิพล ชูเปอร์ไต้ฝุ่น ยางิ ฟาดหางพาน้ำป่าทะลักมาจากเมียนมาประเทศเพื่อนบ้าน ที่อำเภอแม่สาย  เมื่อวันที่10 กันยายน จนถึงขณะนี้ ไม่มีทีท่าจะลดลงแต่กลับทวีความรุนแรงและทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นวงกว้าง

รวมทั้งเข้าท่วมเขตอำเภอเมืองเชียงราย จมน้ำทั้งหมดแล้ว ถือว่าเป็นเหตุการณ์หนักสุดในรอบ 60 ปี โดยที่ประชาชนหลายคนคิดไม่ถึงว่าน้ำจะท่วมสูง ขนาด 2 เมตร และไหลมาอย่างแรงและรวดเร็ว

ส่งผลให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินประชาชนติดค้างในบ้านเรือนหลายรายรวมถึงสัตว์เลี้ยง ต้องหนีตายแทบเอาชีวิตไม่รอด อย่างไรก็ตาม น้ำท่วมฉับพลันครั้งนี้ถือเป็นน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่อำเภอแม่สายซึ่งมองว่าหนักหน่วงกว่าปี2565 และหนักที่สุดในรอบ60ปี

จากการเปิดภาพมุมสูง ลุกลามเป็นวงกว้างทะลักเข้าท่วมสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างถ้ำขุนน้ำนางนอน ด่านพรมแดนแม่สายแห่งที่ 1 หรือด่านท่าขี้เหล็ก ถนนพหลโยธิน ชุมชนเกาะลอย -ห้าแยกพ่อขุน-สะพานน้ำกก

ทะลักเข้าท่วมในหลายอำเภอรวมถึงอำเภอเมืองจังหวัดเชียงราย  และ เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2567สถานการณ์ฝนตกและน้ำท่วมหนักใน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่กลางดึกที่ผ่านมา ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน

ที่นาย เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติและผู้ก่อสร้างวัดร่องขุ่น ระบุว่าสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้โหดที่สุดเท่าที่เคยมีมาล่าสุดตรวจสอบพบกระแสน้ำยังไหลแรงทำให้รถใหญ่ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในพื้นที่ได้

เบื้องต้นคาดการณ์ว่าน้ำจะไหลเข้าพื้นที่ ต.ศรีเมืองชุม และต.เกาะช้าง ในช่วงเช้า และจะมีมวลน้ำจากเขต อ.แม่ฟ้าหลวง ไหลลงสู่พื้นที่ ต.โป่งผา และต.โป่งงาม โดย กระทรวงมหาดไทย สั่งเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย "น้ำท่วมเชียงราย" กระทบแล้ว 1,241 ครัวเรือน

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 11 ก.ย. 2567  นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เดินทางลงพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พร้อมร่วมประชุมกับพลเอก ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด, นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

หลังจากเกิดสถานการณ์ฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องอันเนื่องมาจากอิทธิพลของพายุยางิ ในช่วงวันที่ 9-10 ก.ย. ส่งผลทำให้อำเภอแม่สาย และอำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนพี่น้องประชาชนและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งได้รับความเสียหาย

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จากข้อมูลล่าสุดของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย พบว่า ในห้วงวันที่ 9-10 ก.ย. ที่ผ่านมาได้เกิดฝนตกต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดเชียงราย

ส่งผลให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น 5 อำเภอ 10 ตำบล 34 หมู่บ้าน 1 เทศบาลนคร (2 ชุมชน) ตลาดชุมชนเศรษฐกิจ 2 แห่ง ดินสไลด์ 8 จุด ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,241 ครัวเรือน เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่

1. อำเภอแม่สาย เกิดน้ำท่วมพื้นที่ตลาดสายลมจอย และพื้นที่ชุมชนแม่สาย ชุมชนเหมืองแดง ชุมชนเกาะทราย ชุมชนไม้ลุงขน จำนวน 2 ตำบล คือ ตำบลแม่สาย และตำบลเวียงพางคำ รวม 16 หมู่บ้าน

2. อำเภอแม่ฟ้าหลวง เกิดเหตุดินสไลด์ จำนวน 8 จุด ในพื้นที่ 3 ตำบล 8 หมู่บ้าน เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย

3. อำเภอเชียงของ เกิดน้ำท่วมพื้นที่ตำบลสถาน รวม 3 หมู่บ้าน

4. อำเภอเมืองเชียงราย เกิดน้ำท่วมชุมชนป่าแดง และชุมชนเกาะลอย ในเขตเทศบาลนครเชียงราย และพื้นที่หมู่ที่ 9 ตำบลห้วยชมภู

5. อำเภอแม่จัน เกิดน้ำท่วมพื้นที่ตำบลแม่จัน บริเวณตลาดนวลจันทร์ และชุมชนหลังตลาด ตำบลป่าตึง บริเวณตลาดนวลจันทร์ และชุมชนหลังตลาด และตำบลแม่คำ แม่น้ำคำล้นตลิ่ง

สำหรับสถานการณ์ฝนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย อยู่ในระดับเฝ้าระวัง โดยมีฝนอ่อน - ปานกลางในบางพื้นที่ของจังหวัด และสำหรับภาพรวมระดับน้ำแม่น้ำสายหลัก มีแนวโน้มสูงขึ้น ซึ่งนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย

ได้อยู่ในพื้นที่เพื่อบัญชาการเหตุการณ์ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน พร้อมทั้งลงพื้นที่สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในพื้นที่อำเภอต่างๆ ด้วยการระดมสรรพกำลังบูรณาการทุกภาคส่วน และติดตามสถานการณ์รายงานผู้บังคับบัญชาอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ และนายอำเภอทุกอำเภอต้องให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามแผนป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ได้มีการทบทวนและซักซ้อมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการป้องกัน ทั้งการขุดลอกท่อระบายน้ำ การเก็บวัชพืช และระยะยาว

เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ขอให้จังหวัดได้ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมืองพิจารณาขอรับการสนับสนุนงบประมาณสร้างเขื่อนพนังกั้นน้ำตามแนวริมตลิ่ง เพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้นจากแม่น้ำลำคลอง รวมทั้งน้อมนำพระราชดำริ "ธนาคารน้ำใต้ดิน"

เพื่อแก้ปัญหาระยะยาว สำหรับพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ให้ใช้กลไกความร่วมมือในการประสานเพื่ออัปเดตสถานการณ์และเตรียมรับมือสถานการณ์ในครั้งต่อๆ ไป

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้สถานการณ์ฝนที่ยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้นิ่งนอนใจ ติดตามสถานการณ์กับทางราชการ ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย

ได้แจ้งเตือนทุกอำเภอเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่งอย่างต่อเนื่อง และให้เตรียมความพร้อม เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ กำลังพลพร้อมให้ความช่วยเหลือทันที ตลอด 24 ชั่วโมง

และหลังสถานการณ์บรรเทาลง ให้เร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป โดยพี่น้องประชาชนสามารถแจ้งขอรับความช่วยเหลือทางสายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่สแตนด์บายให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา.

ขณะที่ จ.เชียงราย แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้เตรียมความพร้อมรับมวลน้ำ เพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้น และจากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่จ.เชียงราย จากอิทธิพลของพายุยางิ ในวันที่ 9-10 ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ 2 อำเภอ

ได้แก่ อ.แม่สาย และอ.เชียงของ ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมและน้ำป่าไหลหลากทำให้บ้านเรือนพี่น้องประชาชนและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งได้รับความเสียหาย โดย จ.เชียงราย มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ต.เวียงพางคำ และต.แม่สาย อ.แม่สาย และต.สถาน อ.เชียงของ