"กนอ." จ่อผุดศูนย์ I-EA-T Incubation เพิ่มโอกาส "SMEs" รับลูก "เอกนัฏ"

19 ก.ย. 2567 | 08:09 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.ย. 2567 | 08:09 น.

"กนอ." จ่อผุดศูนย์ I-EA-T Incubation เพิ่มโอกาส "SMEs" รับลูก "เอกนัฏ" หลังได้รับคำสั่งให้ช่วยเหลือสนับสนุนเอสเอ็มอี เดินหน้าพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย สอดรับนโยบายปฏิรูปอุตสาหกรรม

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ดำเนิการสั่งการให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ร่วมขับเคลื่อนนโยบายปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งการยกระดับอุตสาหกรรมเดิมที่มีอยู่ ไปถึงการดึงดูดการลงทุนกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่มีศักยภาพ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) ที่เป็นเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีสมัยใหม่ หรืออุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ ที่ผู้ประกอบการในไทยหลายรายมีศักยภาพสูง 

อีกทั้ง ยังต้องยกระดับเศรษฐกิจไทยไปสู่การเป็นเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ในการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคม และรักษาสิ่งแวดล้อม

ส่วนการจัดการกากอุตสาหกรรม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม และสุขภาพอนามัยของประชาชน ที่ผ่านมา กนอ.ถือว่าทำได้ดีอยู่แล้ว แต่อาจจะต้องวางแนวทางประสานข้อมูลกับทางกระทรวงฯ และต่อยอดองค์ความรู้ของ กนอ.ไปสู่ผู้ประกอบการนอกนิคมฯ เพื่อให้เกิดโรงงานสีเขียวทั่วประเทศ

ขณะนี้กระทรวงฯ กำลังจัดฐานข้อมูลของแต่ละหน่วยงานในกระทรวงฯ ให้เป็นหนึ่งเดียวตามแนวนโยบายรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) จึงต้องการให้มีการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง กนอ. และกระทรวงฯ ทั้งในเรื่องการตัดการกากอุตสาหกรรม ,ขออนุมัติ-อนุญาต และการรายงานผลประกอบการผ่านแพลทฟอร์มเดียวกัน (Single Form) เพื่อให้ฐานข้อมูลที่ทุกหน่วยงานสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้

"กนอ." ผุดศูนย์ I-EA-T Incubation เพิ่มโอกาส "SMEs" รับลูก "เอกนัฏ"

นอกจากนี้ ยังต้องการให้ กนอ.เข้าไปช่วยเหลือส่งเสริมเอสเอ็มอี (SMEs) ไทยในการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย โดยอาจจะจัดพื้นที่ และสนับสนุนเทคโนโลยีที่มีอยู่ภายในนิคมฯ ให้แก่ธุรกิจ SMEs ทั้งในแง่ของการลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ การเข้าถึงแหล่งทุน และการสร้าง Supply Chain หรือห่วงโซ่อุปทานให้เกิดขึ้นระหว่างผู้ประกอบการภายในนิคมอุตสาหกรรมนั้นๆ 

“เชื่อว่าพื้นที่นิคมฯที่ กนอ.ดำเนินการเอง และพื้นที่ร่วมดำเนินงาน ยังมีความสามารถที่จะรองรับการลงทุน โดยเฉพาะจากนักลงทุนต่างชาติได้อีกมาก"

นายสุเมธ ตั้งประเสริฐ กรรมการ กนอ. รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการ กนอ. กล่าวว่า กนอ.ได้วางแนวทางเพื่อสนับสนุนนโยบายไว้ 3 เรื่องสำคัญที่จะเร่งดำเนินการ คือ 

  • การจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะ SMEs (I-EA-T Incubation) เพื่อสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs โดยการใช้นิคมฯ เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้ SMEs เบื้องต้นจะเริ่มดำเนินการ และพร้อมเปิดนิคมฯที่นิคมฯลาดกระบัง ภายใน 3 เดือน และการผลักดันแก้ไขปัญหาผังเมืองในพท้นที่ระเบียงเศรษฐกิจหรือเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่จะดำเนินการภายใน 3 เดือนเช่นกัน
  • การบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมครบวงจร ผ่านความร่วมมือกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ในการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่อลดขั้นตอนและเวลา เรื่องนี้จะสามารถดำเนินการได้เต็มรูปแบบภายใน 6 เดือน 
  • การสร้าง Eco System หรือระบบนิเวศทางธุรกิจใหม่ โดยใช้แพลตฟอร์ม (Platform) ต่างๆ เพื่อรองรับอุตสาหกรรมยุคใหม่ ให้ง่ายต่อการประกอบกิจการ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ภายใน 1 ปี

“กนอ.ขอรับการสนับสนุนจาก รมว.อุตสาหกรรม ในด้านต่างๆ เช่น การผลักดันกฎหมายผังเมือง EEC, การบูรณาการแก้ไขการจัดการกากอุตสาหกรรมครบวงจร, Fast Track Lane (ช่องทางพิเศษเพื่ออำนายความสะดวกแก่ผู้ประกอบการ) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมโยธาธิการและผังเมือง, กรมที่ดิน และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI เพื่อให้โครงการตามนโยบายของ รมว.อุตสาหกรรม สำเร็จลุล่วง และที่ต้องการใช้กลไกของกระทรวงอุตสาหกรรม ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ”