“จุลพันธ์” เผยแจกเงิน 10000 กลุ่มเปราะบาง โอนเข้าพร้อมเพย์เที่ยงคืน 25 ก.ย.

24 ก.ย. 2567 | 04:51 น.
อัพเดตล่าสุด :24 ก.ย. 2567 | 05:08 น.

“จุลพันธ์” เผยแจกเงิน 10,000 บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ คนพิการ โอนเข้าพร้อมเพย์เที่ยงคืน 25 กันยายน 2567 ยอมรับวันแรก เช็กสิทธิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เว็บไซต์อาจล่าช้าแต่สามารถดำเนินการได้

ความคืบหน้าภายหลังจากวันนี้ 24 กันยายน 2567 กระทรวงการคลัง โดย กรมบัญชีกลาง เปิดให้ประชาชน เช็กสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ คนพิการ จำนวน 14.55 ล้านราย สามารถตรวจสอบสิทธิ์ไปแล้วนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 24 กันยายน 2567 ที่ตึกบัญชาการ 1  ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ครม. ถึงความคืบหน้าการแจกเงิน 10,000 บาท ให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและบัตรคนจน และ คนพิการ ว่า ไม่พบปัญหา ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าจะมีการแจกเงินผ่านแอพพลิเคชั่น ‘รัฐจ่าย’ ยืนยันว่าเป็นแอพฯ ของ กรมบัญชีกลาง ที่มีนานแล้ว ซึ่งเป็นแอพฯ สำหรับ เช็คสิทธิสวัสดิการในประเภทต่างๆ

 

เมื่อถามว่าหากเว็บไซต์ล่มหรือไม่สามารถดำเนินการได้จะทำอย่างไร นายจุลพันธ์  กล่าวว่า เป็นไปได้เพราะประชาชนทั้ง 14.5 ล้านคนพร้อมกันก็อาจจะมีการทำให้ล่าช้าได้ คงต้องลองกดโหลดดู แต่ตัวแอพพลิเคชั่นนั้นไม่ได้ล่ม

นายจุลพันธ์ ให้เหตุผลเลื่อนการประชุมคณะกรรมนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจออกไปก่อนนั้น เนื่องจากมีเหตุการณ์เฉพาะหน้าขึ้นมาเยอะ โดยเฉพาะ เรื่องน้ำท่วม ตนนั้นก็ได้อยู่ที่ จ.เชียงใหม่ ถือว่าเป็นผู้ประสบภัย รัฐบาลก็ต้องเร่งแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าโดยเฉพาะเรื่องของภัยพิบัติ กระบวนการของการประชุมนั้นคงจะมีขึ้นในเร็ววันนี้และไม่ช้าจนเกินไป

 

“ยืนยันว่าจะเริ่มโอนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ประชาชนได้ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 25 ก.ย. 2567 แต่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในพิธีกดปุ่มคิกออฟแจกเงินให้กลุ่มเปราะบางและผู้พิการในเวลา 09.00 น. เชื่อว่าการแจกเงินในวันพรุ่งนี้ (25 ก.ย.) ไม่มีการเลื่อนอย่างแน่นอน ส่วนเฟสถัดไปก็จะเร่งรัดดำเนินการให้ครบถ้วนตามขั้นตอนต่อไป”

จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์

ขณะที่การประชุม ครม. วันนี้ ยังไม่มีในวาระหารือขั้นตอนรายระเอียดการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ คนพิการ จำนวน 10,000 บาท ในกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟน แต่คาดว่าจะมีข้อสั่งการจากนายกรัฐมนตรีให้ตั้งคณะกรรมการเพื่อเดินหน้าตามกลไกราชการให้ถูกต้องตามกิจลักษณะ เพราะคณะกรรมการที่ดูแลโครงการนี้ได้หมดวาระไปตามรัฐบาลชุดก่อน

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมปีนี้ถือว่าค่อนข้างรุนแรง และอาจจะหนักกว่าบางปี ด้วยกระแสการไหลของน้ำค่อนข้างรุนแรง ซึ่งขณะนี้หน่วยงานราชการทั้งอำเภอ จังหวัด ตำรวจ ทหาร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือ ส่วนข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีในการจ่ายเงินเยียวยาชกเชยที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับจังหวัดเชียงใหม่และพื้นที่ที่ประสบภัย ดังนั้นงบประมาณที่ได้มาจังหวัดละ 20 ล้านบาท เพื่อซ่อมแซมบ้านเรือน ฉีดล้างทำความสะอาด กระทรวงการคลังจะเร่งรัดการเบิกจ่ายให้มีความรวดเร็ว อย่างไรก็ตามปีนี้น้ำเข้ามาในอำเภอแม่ริม ค่อนข้างเร็ว และไปค่อนข้างเร็ว พร้อมพัดดินโคลนมาด้วย ดังนั้นรัฐบาลจะเร่งดำเนินการแก้ไขต่อไป.