ชาวไร่อ้อยร้อง ธปท. ดูแล "ค่าเงินบาท" หลังฉุดราคาตกต่ำรุนแรง-เสี่ยงขาดทุน

27 ก.ย. 2567 | 05:28 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ก.ย. 2567 | 05:28 น.

ชาวไร่อ้อยร้อง ธปท. ดูแล "ค่าเงินบาท" หลังฉุดราคาตกต่ำรุนแรง-เสี่ยงขาดทุน ชี้มีผลกระทบอย่างมากต่อการกำหนดราคาอ้อยก่อนเปิดหีบเพื่อผลิตน้ำตาลทราย ช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ 

จากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่มีการแข็งขึ้นอย่างรวดเร็วภายในระยะเวลา 1 เดือน โดยแข็งค่าขึ้นกว่า 3 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะภาคการส่งออก

ล่าสุดสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ,สถาบันชาวไร่อ้อยภาคอีสาน ,สหสมาคมชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย และสมาพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย ได้ทำหนังสือถึงนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อขอให้พิจารณาช่วยเหลือราคาอ้อยตกต่ำจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทที่แข็งค่า โดยมีข้อความระบุว่า 

 

สืบเนื่องจากปัจจุบันวิกฤตการแข็งค่าเงินบาท ได้แข็งค่าขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากเปรียบเทียบกับประเทศคู่แข่งทางการค้ากับประเทศไทย เช่น อินเดีย เวียดนาม บราซิล และอีกหลายประเทศ ค่าเงินแข็งค่าน้อยกว่าไทยมาก 

การแข็งค่าเงินบาทในปัจจุบันได้ส่งผลกระทบต่อราคาอ้อยของเกษตรกรชาวไร่อ้อย ซึ่งจะมีการกำหนดราคาอ้อยก่อนเปิดหีบเพื่อผลิตน้ำตาลทรายภายในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ 

โดยหากพิจารณาจากค่าเงินบาทปัจจุบันเปรียบกับอัตราแลกเปลี่ยนในปีที่ผ่านมาจะทำให้ราคาอ้อยของเกษตรกรชาวไร่อ้อยต่ำลงกว่าตันละ 80 บาท นอกเหนือจากปัจจัยอื่นโดยเฉพาะราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกที่ต่ำลงอีก ซึ่งจะเพิ่มภาระให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยประสบภาวะการขาดทุนเพิ่มสูงขึ้น 

 

ดังนั้น เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคาอ้อยตกต่ำอย่างรุนแรง ทางองค์กรชาวไร่อ้อยทั่วประเทศ จึงนำเรียนปัญหามา เพื่อพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาการแข็งค่าเงินบาท ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อราคาอ้อยของเกษตรกรชาวไร่อ้อยให้ตกต่ำ ให้อยู่ระดับอ่อนที่เหมาะสมเพื่อเกษตรกรจะได้มีรายได้สูงขึ้นและสร้างโอกาสให้สินค้าเกษตรที่ส่งออกสามารถแข่งขันกับคู่แข่งในระดับโลกเพื่อเป็นการสร้างความแข็งแรงให้เกษตรกรโดยเฉพาะอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย และเพื่อเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรมีกินมีใช้อย่างยั่งยืน