ผ่านโยบาย “เศรษฐกิจวัฒนธรรม” สุดาวรรณ ประกาศดันไทยติดท็อป Soft Power โลก

02 ต.ค. 2567 | 05:29 น.
อัปเดตล่าสุด :02 ต.ค. 2567 | 07:57 น.

“สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม” เปิดนโยบาย 4-3-2-1 ปลดล็อกกระทรวงวัฒนธรรมเป็นกระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ ดัน ”เศรษฐกิจวัฒนธรรม” ผลักดันอุตสาหกรรมสร้างสรรค์-ยกระดับท่องเที่ยว-เทศกาลสู่เวทีโลก หวังไทยติด Top 25 Soft Power โลก ภายใน 1 ปี

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม มอบนโยบายการขับเคลื่อน "เศรษฐกิจวัฒนธรรม เพื่อการพัฒนาชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน" เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 22 ของกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งก้าวต่อไปสู่ปีที่ 23 โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 มีกรอบแนวคิดขับเคลื่อนงานคือ "4-3-2-1" หรือ "4 นโยบาย - 3 แนวทาง - 2 รูปแบบ - 1 เป้าหมาย"

สำหรับ 4 นโยบายในการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรม เพื่อเสริมสร้างสังคมเข้มแข็งและสนับสนุนเศรษฐกิจวัฒนธรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืน ได้แก่ 1. ส่งเสริม สร้างสรรค์ ผลักดันทุนทางวัฒนธรรมให้เป็นทุนทางเศรษฐกิจ

นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม

เสริมสร้างระบบนิเวศและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจวัฒนธรรม 3. เสริมพลังสร้างสรรค์ให้ "คน" เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมและสังคม และ 4. พัฒนาและผลักดันสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมให้มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นในตลาดโลก

โดยเน้นการปฏิบัติใน 3 แนวทาง คือ

  1. เชื่อมโยง อุตสาหกรรมวัฒนธรรมกับอุตสาหกรรมสาขาอื่น ๆ อาทิ วัฒนธรรมกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วัฒนธรรมกับการเกษตร วัฒนธรรมกับการแพทย์ ฯลฯ
  2. ร่วมมือ โดยบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนและทุกหน่วยงาน โปร่งใส ไม่โลภโส และไม่ตั้งข้อแม้
  3. ยั่งยืน โดยคำนึงถึงความยั่งยืนใน 3 มิติ คือ ประโยชน์ที่ยั่งยืนแก่ประเทศชาติและประชาชน การบริหารจัดการที่ยั่งยืน และคุณค่าของวัฒนธรรมที่ยั่งยืน

ผ่านโยบาย “เศรษฐกิจวัฒนธรรม” สุดาวรรณ ประกาศดันไทยติดท็อป Soft Power โลก

ขณะที่ 2 รูปแบบ คือ

  1. การรักษาสิ่งเดิม 2.การเพิ่มเติมสิ่งใหม่ อาทิ เร่งขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศ และระดับโลก และนำทุนทางวัฒนธรรมที่เข้มแข็งมาต่อยอดทางเศรษฐกิจ การสร้างการยอมรับต่อวัฒนธรรมไทยของผู้คนทั่วโลกผ่านงานวิเทศด้านวัฒนธรรม

และการสนับสนุนการทูตวัฒนธรรม ผลักดันให้วัฒนธรรมไทย "เข้าถึงง่าย" "เข้าใจได้" และ "ได้ใจด้วย" การใช้ทรัพยากรและทุนทางวัฒนธรรมของกระทรวงวัฒนธรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุด การพัฒนาสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมตามความต้องการของตลาด พร้อมทั้งศึกษาวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคและผลักดันสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมเข้าสู่แพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ระดับโลก การสร้างความโดดเด่นและยกระดับคุณค่าและมูลค่าของสินค้าและบริการด้วยอัตลักษณ์วัฒนธรรม และพัฒนาสู่สินค้าและบริการใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพในตลาดโลก เป็นต้น

ผ่านโยบาย “เศรษฐกิจวัฒนธรรม” สุดาวรรณ ประกาศดันไทยติดท็อป Soft Power โลก

โดยขับเคลื่อนสู่ 1 เป้าหมาย คือ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศด้วยเศรษฐกิจวัฒนธรรมใน 3 ด้าน ประกอบด้วยด้านเศรษฐกิจ เร่งเพิ่ม GDP ด้านวัฒนธรรม ด้านสังคมยั่งยืน เพิ่มจำนวนแรงงานทักษะสูงด้านวัฒนธรรมจาก 9.9 แสนคนสู่ 1.2 ล้านคน และเข้าสู่ระบบวิชาชีพ และการขับเคลื่อนสู่เวทีโลก

 

“โดยผลักดันให้ประเทศไทยเป็น 1 ใน 25 ประเทศที่มีอิทธิพลด้าน Soft Power ในมิติวัฒนธรรม” รมต.สุดาวรรณ กล่าว

ผ่านโยบาย “เศรษฐกิจวัฒนธรรม” สุดาวรรณ ประกาศดันไทยติดท็อป Soft Power โลก

รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า วธ. จะส่งเสริมและผลักดันเศรษฐกิจวัฒนธรรม โดยใช้ "ทุนทางวัฒนธรรม" ซึ่งเชื่อมโยงกับวิถีชุมชน คุณภาพชีวิต และความคิดสร้างสรรค์ของประชาชน และอาศัย "ระบบนิเวศ" และโครงสร้างพื้นฐานทางวัฒนธรรมที่ดี เพื่อเป็นแรงหนุนให้เกิดการนำศักยภาพและความคิดสร้างสรรค์ของ "คน" มาใช้ได้อย่างเต็มศักยภาพ เพื่อส่งเสริม Soft Power ผ่านการยกระดับทักษะและปลดล็อกศักยภาพของคนไทย ด้วยการขับเคลื่อนการยกระดับทักษะ 1 ครอบครัว 1 Soft Power คู่ขนานไปกับการเพิ่มการเข้าถึงศิลปวัฒนธรรมของผู้คน รวมไปถึงการผลักดันอุตสาหกรรมวัฒนธรรม อาทิ ภาพยนตร์และคอนเทนต์ ศิลปะ แฟชั่น อาหารไทย ฯลฯ

ผ่านโยบาย “เศรษฐกิจวัฒนธรรม” สุดาวรรณ ประกาศดันไทยติดท็อป Soft Power โลก

 

นอกจากนี้ยังร่วมผลักดันการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เทศกาลประเพณี ให้ไทยเป็นประเทศแห่งเทศกาลประเพณีในระดับโลก ด้วยความร่วมมือของภาคีเครือข่ายศิลปินทุกสาขา กลุ่มวิชาชีพในอุตสาหกรรมวัฒนธรรม กลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ อาทิ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการส่งเสริมการขับเคลื่อน Soft Power ของประเทศไทย

ผ่านโยบาย “เศรษฐกิจวัฒนธรรม” สุดาวรรณ ประกาศดันไทยติดท็อป Soft Power โลก

อย่างไรก็ตาม จะต้องนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติให้เห็นผลงานอย่างเป็นรูปธรรม โดย วธ. ต้องมีทั้งผลงานและผลลัพธ์ที่ชัดเจนตามเป้าหมาย 3 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจ สังคม และการขับเคลื่อนสู่เวทีโลก และต้องมีความคืบหน้าและผลสัมฤทธิ์ภายในห้วงเวลา 12 เดือน เพื่อเร่งขับเคลื่อน วธ. สู่กระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ อาทิ วธ. จะร่วมมือกับรัฐบาลเร่งกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม การท่องเที่ยวชาติพันธุ์ และเทศกาลประเพณีระดับโลก ผ่าน World Event อย่างประเพณีลอยกระทง เพื่อสร้างพลวัตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องทุกระดับ

ผ่านโยบาย “เศรษฐกิจวัฒนธรรม” สุดาวรรณ ประกาศดันไทยติดท็อป Soft Power โลก

และเร่งรัดความคืบหน้า พ.ร.บ. ภาพยนตร์ รวมถึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำ พ.ร.บ. เกม ตลอดจนยกระดับทักษะผู้ผลิตและผู้ประกอบการทางวัฒนธรรมสู่การแข่งขันในระดับโลก พร้อมกับนำความเชื่อและความศรัทธาในท้องถิ่นมาต่อยอดสู่การสร้างรายได้อย่างสร้างสรรค์ ยกระดับวัฒนธรรมท้องถิ่น เปิดให้บริการหอศิลป์แห่งชาติ เพื่อเป็นพื้นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทย พร้อมทั้งเร่งยกระดับอุตสาหกรรมภาพยนตร์และคอนเทนต์ไทยไปพร้อมกับอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสาขาอื่น ๆ และการผลักดันเมืองสร้างสรรค์ เชื่อมโยงท้องถิ่นสู่สากล และเน้นปลุกพลังสร้างสรรค์และศักยภาพของคนรุ่นใหม่ผ่านกิจกรรมและพื้นที่ทางวัฒนธรรมทั่วประเทศ

ผ่านโยบาย “เศรษฐกิจวัฒนธรรม” สุดาวรรณ ประกาศดันไทยติดท็อป Soft Power โลก

น.ส.สุดาวรรณ กล่าวในตอนท้ายว่า วันนี้ทุกท่านคงพอจะเห็นทิศทางของกระทรวงวัฒนธรรมได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ในการชูเศรษฐกิจวัฒนธรรมให้เป็นปัจจัยหลักในการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง เราจะขับเคลื่อนกระทรวงวัฒนธรรมสู่กระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจวัฒนธรรมที่เราขับเคลื่อนอย่างมุ่งมั่นต่อเนื่อง จะเป็นกุญแจสําคัญที่สุดปลดล็อกประเทศไทยสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนค่ะเราจะนําพาประเทศไทยสู่ประเทศพัฒนาแล้วตามความมุ่งหมายของรัฐบาลและทุกภาคส่วน

ผ่านโยบาย “เศรษฐกิจวัฒนธรรม” สุดาวรรณ ประกาศดันไทยติดท็อป Soft Power โลก

"กุญแจที่เรียกว่าเศรษฐกิจวัฒนธรรม อยู่ในมือทุกท่าน รอให้ทุกท่านนําไปปลดล็อคขับเคลื่อนประเทศทั้งในมิติเศรษฐกิจและสังคมต่อไป"