ส่องผลงาน 1 เดือน "เอกนัฏ พร้อมพันธุ์" บนเก้าอี้ "รมว.อุตสาหกรรม"

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้ดำเนินนโยบายการปฏิรูปอุตสาหกรรม สู่เศรษฐกิจยุคใหม่ โดยในช่วงตั้งแต่วันที่ 11 ก.ย.-10 ต.ค. 67 สิ่งที่ดำเนินการประกอบด้วย 

• การจัดการกาก สารพิษ ที่ทำร้ายชีวิตประชาชน โดยเดินหน้ายกระดับการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมทั้งระบบ ผ่านการจัดตั้งคณะกรรมการปรับปรุงกฎหมายเพื่อการปฏิรูปอุตสาหกรรม (คำสั่งกระทรวงอุตสาหกรรม ที่ 198/2567 ลงวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2567) ศึกษากฎหมายที่กระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวข้องทั้งหมด เร่งยกร่างกฎหมายฉบับใหม่เพื่อบูรณาการภารกิจด้านการบริหารจัดการกากอุตสาหกรรมเป็นกฎหมายเฉพาะแยกออกมาจากกฎหมายว่าด้วยโรงงาน และเพิ่มภารกิจด้านการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งดำเนินการจัดตั้งกองทุนปฏิรูปอุตสาหกรรม เพื่อรวมกองทุนทั้งหมดและจัดตั้งเป็นกองทุนที่มีศักยภาพในการขับเคลื่อนและพัฒนาการปฏิรูปอุตสาหกรรมไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ โดยรวมภารกิจทั้งหมดเป็นกฎหมายฉบับเดียว 
   

• การสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขันของ SMEs ไทย โดยการ Save อุตสาหกรรมไทย ซึ่งมีความสําคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีทั้งการผลักดันตั้งนิคมอุตสาหกรรม SMEs โดยได้มอบหมาย กนอ. เข้าไปช่วยเหลือส่งเสริม SMEs ไทยในการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทย จัดพื้นที่และสนับสนุนเทคโนโลยีที่มีอยู่ภายในนิคมฯ ให้แก่ธุรกิจ SMEs การลดต้นทุนการดำเนินธุรกิจ การเข้าถึงแหล่งทุน และการสร้าง Supply Chain หรือห่วงโซ่อุปทานให้เกิดขึ้นระหว่างผู้ประกอบการภายในนิคมอุตสาหกรรม โดย กนอ. ได้เตรียมจัดตั้งศูนย์บ่มเพาะ SME (I-EA-T Incubation) เพื่อสร้างความเท่าเทียมในการแข่งขัน โดยใช้นิคมฯ เพื่อลดค่าใช้จ่ายให้ SMEs 

สำหรับเบื้องต้นจะเริ่มดำเนินการและพร้อมเปิดที่นิคมฯ ลาดกระบัง ภายในสิ้นปี 67, สนับสนุนให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนแก่ผู้ประกอบการ SMEs ผ่านกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ ของกระทรวงฯ ปล่อยสินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เงื่อนไขผ่อนปรน ผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจ (เสือติดปีก) และโครงการสินเชื่อเสริมสภาพคล่องธุรกิจ (คงกระพัน) วงเงินกู้รวม 1,900 ล้านบาท เพื่อให้ SMEs เข้าถึงแหล่งทุนและพัฒนาธุรกิจได้อย่างยั่งยืน 

,การพักชำระหนี้เงินต้น 3 เดือน ให้ SMEs และยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้กับโรงงานที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยภาคเหนือ ,จัดฝึกอบรมการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมให้ดีพร้อม หรือ คพอ.ดีพร้อม เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ ทักษะด้านการบริหารจัดการในทุกมิติผ่านกระบวนการฝึกอบรม ส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงเครือข่าย สนับสนุนให้เกิดความร่วมมือทางธุรกิจ สู่การพัฒนาศักยภาพให้สามารถขยายธุรกิจให้เติบโตและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน 
 

นอกจากนี้ยังป้องกันการแข่งขันและนำเข้าสินค้าผ่าน E-Commerce ทะลักเข้าไทยไม่ได้มาตรฐาน โดย สมอ. ร่วมกับกรมศุลกากร เปิดศูนย์เฉพาะกิจรับแจ้งการนำเข้า หรือ EXEMPT 5 และกำหนดแนวทางการป้องกันสินค้านำเข้าไม่ได้มาตรฐานจากต่างประเทศผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ 

• การสร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยการปฏิรูปอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ทั้งการบริหารจัดการอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย เกษตรกรชาวไร่อ้อยต้องผลิตและนำส่งอ้อยสดคุณภาพดีให้กับโรงงานน้ำตาล และโรงงานน้ำตาลจะต้องปรับปรุงประสิทธิภาพได้ปริมาณตามมาตรฐาน เพื่อให้เกิดรายได้ที่มากที่สุดกับระบบ 

การสนับสนุนเงินช่วยเหลือเพื่อลดต้นทุนการตัดอ้อยสดคุณภาพดี โดยให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน. )หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางความเป็นไปได้ในการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงงานที่ผลิตไฟฟ้าจากใบและยอดอ้อย เป็นแนวทางในการส่งเสริมให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยเห็นคุณค่าและประโยชน์ของใบและยอดอ้อย ซึ่งจะทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยลดการเผาอ้อย และถือเป็นการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ลดผลกระทบจากประชาชนและชุมชนใกล้เคียง พร้อมวางแนวทางส่งเสริมพลังงานไฟฟ้าชีวมวลและเอทานอล ยกระดับผลผลิตอ้อยสู่อุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ 

,การส่งเสริมภาคอุตสาหกรรม มุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียว ร่วมวางทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมไทยต้องมุ่งสู่ความยั่งยืน ,หนุนเหมืองเก่าอุทยานหินเขางูปรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว คืนกำไรสู่ท้องถิ่นตามหลัก BCG รวมถึงยกระดับอุตสาหกรรมนำอัตลักษณ์เชิงพื้นที่สู่สากล และสนับสนุนศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาฯ ในการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล ด้วยระบบ AI