"กพท." รุกทำแผนแม่บทอุตสาหกรรม "โดรน" ดันใช้ประโยชน์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่า กพท.ได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือเพื่อจัดทำแผนแม่บทเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอากาศยานไร้คนขับทั้งระบบ หรือโดรน

ทั้งในด้านนโยบาย กฎหมาย การพัฒนาบุคลากร การเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน ความปลอดภัย ความมั่นคง และการป้องกันสิทธิส่วนบุคคล เป็นต้น ซึ่งคาดว่าในระยะ 10 ปีข้างหน้า จะมีปริมาณอากาศยานไร้คนขับไม่ต่ำกว่า 1 ล้านลำ จากปัจจุบันที่มีโดรนที่ขึ้นทะเบียนในระบบของ กพท. อยู่ 130,000 ราย

การจัดทำแผนงานและกำหนดแนวทางสำหรับการพัฒนาอากาศยานซึ่งไม่มีนักบินทั้งระบบให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและการรักษาความปลอดภัยสากล เพื่อให้อุตสาหกรรมทั้งระบบเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพยั่งยืนในอนาคต จำเป็นต้องมีทิศทางที่ชัดเจน และได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่าง ๆ ในทุกภาคส่วน
 

รวมถึงเข้าใจบทบาทหน้าที่และทิศทางการพัฒนา จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องมีการจัดทำแผนแม่บทที่ครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อให้มีการบูรณาการทั้งระบบสามารถใช้ประโยชน์จากการเติบโตก้าวหน้าของเทคโนโลยีการบินมาใช้ในการพัฒนาขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

อย่างไรก็ดี ล่าสุด กทพ. เตรียมยกระดับการใช้งานโดรนในกิจกรรมด้านต่างๆ ให้ได้มาตรฐานผ่านงาน งานสัมมนาและการแสดงอากาศยานไร้คนขับ Thailand Drone Exhibition and Symposium 2024 งานแสดงเทคโนโลยีและสัมมนา เพื่อวงการโดรนโดยเฉพาะขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย 

โดยงานดังกล่าวจะรวบรวมผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานด้านโดรน ทั้งผู้กำหนดนโยบายการใช้โดรนจากภาครัฐ ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย โดรน นักบินโดรนมืออาชีพ ผู้ประกอบการในธุรกิจโดรน ผู้คิดค้นซอฟต์แวร์ แอปพลิเคชัน หลักสูตรต่าง ๆ และ Simulation รวมถึงร่วมแบ่งปันความรู้ และเชื่อมโยงโอกาสทางธุรกิจ
 

นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอมุมมองใหม่ ทั้งในเชิงพาณิชย์ การท่องเที่ยวและความบันเทิง การตรวจติดตามด้านสิ่งแวดล้อม การตรวจสอบความเสียหาย สาธารณะภัย และ การเกษตร ที่โดรนก็เข้ามาช่วยเพิ่มกำลังผลิต ทั้งยังช่วยลดกำลังคน และลดเวลาในการทำงาน 

และโดรนขนส่งที่เริ่มมีให้เห็นในหลายประเทศ และไทยในปัจจุบัน โดยหน่วยงานภาครัฐได้จัดทำร่าง พ.ร.บ.การใช้งานโดรน เพื่อการขนส่งและโลจิสติกส์แล้ว และเตรียมเสนอร่างให้พิจารณาต่อไป ซึ่งงานดังกล่าวจะมีวันที่ 7 - 9 พฤศจิกายน 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์