นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวประจำฤดูกาลผลิต 67/67 ไร่ละ 1,000 บาท หรือโครงการไร่ละพัน ว่า ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างรอรับฟังความเห็นอยู่ ถ้าเสร็จทันจะเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ในวันที่ 3 ธ.ค.นี้ และจะเริ่มจ่ายเงินได้ทันสิ้นปีนี้เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับเกษตรกร โดยจ่ายเงินผ่านธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
“เงินโครงการไร่ละ 1,000 นี้ เป็นคนละโครงการกับการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทำให้กลุ่มเปราะบางที่เคยได้รับเงิน 10,000 บาทไปแล้ว หรือผู้สูงวัยอายุเกิน 60 ปีที่กำลังจะได้รับ 10,000 บาท หากเป็นชาวนาที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ถูกต้อง ก็จะมีสิทธิรับเงินไร่ละพันสูงสุด 10,000 บาทด้วย”
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธนาคารมีความพร้อมดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรตามนโยบายของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นโครงการไร่ละพัน หรือโครงการสนับสนุนสินเชื่อต่างๆ ซึ่ง ธ.ก.ส.มีสภาพคล่องเพียงพอ และโครงการหากผ่านความเห็นชอบตามขั้นตอน ก็พร้อมดำเนินการตามระยะเวลาที่กำหนดได้ทันที
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มว่า เงื่อนไขโครงการไร่ละพันปีนี้ ชาวนาจะได้รับเงินสนับสนุนเพิ่มผลผลิตไร่ละ 1000 บาท ไม่เกินครัวเรือน 10 ไร่ รวมเป็นเงิน 10,000 บาท ซึ่งลดลงจากปีก่อนที่จะให้ถึง 20 ไร่ รับสูงสุดครัวเรือนละ 20,000 บาท
โดยมีชาวนากลุ่มเป้าหมายที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมส่งเสริมการเกษตร4.68 ล้านครัวเรือน ใช้วงเงินงบประมาณรวม 3.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นการใช้เงินผ่าน พ.ร.บ.วินัยการเงินคลัง มาตรา 28 โดยให้ ธ.ก.ส.จ่ายเงินให้ก่อน และรัฐบาลค่อยตั้งงบประมาณทยอยคืนให้ภายหลัง
ทั้งนี้ หาก ครม. อนุมัติเงินไร่ละ 1,000 บาท ทางกรมส่งเสริมการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะส่งรายชื่อให้ ธ.ก.ส. เพื่อโอนเงินไร่ละ 1,000 บาทให้ โดยกำหนดแบ่งการโอนเป็นรอบต่อไป ส่วนเงื่อนไขเกษตรที่จะได้รับเงินไร่ละ 1,000 บาท ต้องเป็นเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร