ยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 คนเก่า 8 แสนราย รีบลงทะเบียน e-KYC ด่วน

03 ธ.ค. 2567 | 22:05 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ธ.ค. 2567 | 07:16 น.

ยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 คนเก่า 8 แสนราย ลงทะเบียนให้ไว กระทรวงการคลัง กำหนดให้ยืนยันตัวตนภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 เท่านั้น หากพลาดคราวนี้ต้องลงทะเบียนรอบใหม่ 2568

ยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 จากกรณีที่ กระทรวงการคลัง เปิดให้ผู้ลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 โดยเปิดให้ลงทะเบียนเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 - 31 ตุลาคม 2565

แต่ปรากฏว่า กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่าผู้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 8 แสนราย ยังไม่มายืนยันตัวตน ดังนั้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ให้สิทธิ์ผู้ที่ยังไม่ยืนยันตัวตนจำนวน 8 แสนราย ให้มายืนยันตัวตนภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 หากไม่ยืนยันตัวตนไม่ทันในรอบนี้ต้องไปลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ 2568

ยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565

นายพรชัย  ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง  เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบการกำหนดระยะเวลาการยืนยันตัวตน (e-KYC) สำหรับผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565สำหรับกลุ่มที่ยังไม่มายืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิสวัสดิการ จำนวน 878,431 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567) 

โดยผู้ผ่านคุณสมบัติกลุ่มดังกล่าวจะต้องดำเนินการยืนยันตัวตน และผลการยืนยันตัวตนต้องแสดงสถานะว่า “ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC)” ภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 เพื่อรับสิทธิสวัสดิการภายใต้โครงการฯ และสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป 

“ผู้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนภายในวันดังกล่าว จะไม่ได้รับสิทธิสวัสดิการย้อนหลังสำหรับเดือนก่อนหน้า ในกรณีที่ผู้ผ่านคุณสมบัติไม่ดำเนินการยืนยันตัวตน ภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 จะถือว่าท่านไม่ประสงค์รับสิทธิ และสามารถลงทะเบียนใหม่ตามโครงการฯ ครั้งต่อไป” 

ยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565

 

วิธียืนยันตัวตนผ่าน E KYC

  • ผู้ลงทะเบียนจะต้องยืนยันตัวตนผ่านอุปกรณ์การยืนยันตัวตน (Full E KYC) โดยใช้บัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ณ ธนาคารตามที่กระทรวงการคลังกำหนด ได้แก่ ธนาคารกรุงไทยฯ

 

สำหรับผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมายืนยันด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมายืนยันตัวตนแทนได้ โดยใช้เอกสาร ดังนี้ 

  1. บัตรประจำตัวประชาชน(ผู้ลงทะเบียน)
  2. หนังสือมอบอำนาจ  
  3. บัตรประจำตัวประชาชน (ผู้ได้รับมอบอำนาจ)
  4. สำเนาบัตรประจำตัวคนพิการ (ถ้ามี) หรือ (ผู้ได้รับมอบอำนาจ) ใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี) ให้นำมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่หน่วยงานยืนยันตัวตน 

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้จ่ายอะไรบ้าง

วันที่ 1 ทุกเดือน

  • กรมบัญชีกลาง จะทำการโอนเงินเข้าให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
  • วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน (สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตน 27 ส.ค. - 26 ก.ย. 67 และเริ่มใช้สิทธิได้ 1 ต.ค. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง)
  • วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ต.ค. - ธ.ค. 67)
  • วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ)

วันที่ 20 ทุกเดือน

  • 200 บาทต่อเดือน  สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตน 27 ส.ค. - 26 ก.ย. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)

 

กรมบัญชีกลางอัปเดตสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนธันวาคม 2567 จ่ายอะไรบ้าง

นางสาวทิวาพร ผาสุข รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ผู้มีสิทธิสามารถใช้สิทธิผ่านบัตรประจำตัวประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด ซึ่งในเดือนธันวาคม 2567 จะได้รับสิทธิ ดังนี้

วันที่ 1 ธันวาคม 2567 (เป็นวงเงินสิทธิไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)

  • วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน (สำหรับผู้มีสิทธิที่ยืนยันตัวตน 27 ต.ค. - 26 พ.ย. 67 และเริ่มใช้สิทธิได้ 1 ธ.ค. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง)
  •  วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน (ต.ค. - ธ.ค. 67) 
  •  วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ)

วันที่ 20 ธันวาคม 2567 

  • เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตน 27 ต.ค. - 26 พ.ย. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน    13 หลัก ของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)

“ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ” โฆษกกรมบัญชีกลางกล่าว

 

บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเดือนธันวาคมใช้จ่ายอะไรบ้าง

สรุป: ผู้ลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 จำนวน 8 แสนราย ต้องยืนยันตัวตนผ่าน E KYC บัตรประจำตัวประชาชนแบบอเนกประสงค์ (Smart Card) ที่ ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ ภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 เท่านั้น

 

 

ที่มา: กระทรวงการคลังhttps://welfare.mof.go.th/