นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบการกำหนดระยะเวลาการยืนยันตัวตน (e-KYC) สำหรับผู้ผ่านคุณสมบัติโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565สำหรับกลุ่มที่ยังไม่มายืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิสวัสดิการ จำนวน 878,431 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567)
โดยผู้ผ่านคุณสมบัติกลุ่มดังกล่าวจะต้องดำเนินการยืนยันตัวตน และผลการยืนยันตัวตนต้องแสดงสถานะว่า “ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC)” ภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 เพื่อรับสิทธิสวัสดิการภายใต้โครงการฯ และสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป
“ผู้ที่ผ่านการยืนยันตัวตนภายในวันดังกล่าว จะไม่ได้รับสิทธิสวัสดิการย้อนหลังสำหรับเดือนก่อนหน้า ในกรณีที่ผู้ผ่านคุณสมบัติไม่ดำเนินการยืนยันตัวตน ภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2567 จะถือว่าท่านไม่ประสงค์รับสิทธิ และสามารถลงทะเบียนใหม่ตามโครงการฯ ครั้งต่อไป”
ทั้งนี้ ในการยืนยันตัวตน ผู้ผ่านคุณสมบัติจะต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนอเนกประสงค์ (Smart Card)
และต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชนกับธนาคารใดก็ได้ เพื่อเป็นประโยชน์ในการรับสิทธิสวัสดิการ หากภาครัฐมีการให้สวัสดิการเป็นเงินโอนเข้าบัญชีในอนาคต ซึ่งสามารถยืนยันตัวตนได้ที่ธนาคารกรุงไทย
สำหรับผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมายืนยันด้วยตนเอง สามารถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมายืนยันตัวตนแทนได้ โดยใช้เอกสาร ดังนี้
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดโครงการฯ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.thข