ไทยพาณิชย์ กรุงศรีอยุธยา และกรุงเทพธนาคาร ประกาศเข้าร่วมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ซึ่งเป็นมาตรการสำคัญในการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหนี้ครัวเรือนเรื้อรัง
โครงการนี้เป็นความร่วมมือระหว่าง กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ สมาคมธนาคารไทย โดยมีเป้าหมายในการลดภาระทางการเงินให้แก่ประชาชน สร้างวินัยทางการเงิน และส่งเสริมความยั่งยืนในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ
นายกฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ไทยพาณิชย์ตระหนักถึงปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของประชาชน โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” จึงถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือกลุ่มลูกหนี้เปราะบางที่มีความเสี่ยงสูง
กลุ่มลูกหนี้ SCB ที่ได้รับความช่วยเหลือจากโครงการนี้ ได้แก่
โครงการนี้ช่วยลดภาระค่างวดและดอกเบี้ยในระยะเวลา 3 ปี สำหรับลูกหนี้ที่ปฏิบัติตามเงื่อนไข โดยเฉพาะผู้ที่มีวินัยทางการเงินสามารถรักษาที่อยู่อาศัย ยานพาหนะ และสถานประกอบการไว้ได้
ธนาคารกรุงศรีอยุธยาได้จัดเตรียมโครงการช่วยเหลือที่ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ เช่น สินเชื่อบ้าน สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ รวมถึงบัตรเครดิต โดยเปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2567 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่านทาง เว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทย
ลูกหนี้สามารถเลือกเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของตน เช่น
สินเชื่อกรุงศรีที่เข้าเกณฑ์โครงการ
นอกจากนี้ ธนาคารยังมีระบบการช่วยเหลือเพิ่มเติมสำหรับลูกค้าที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ผ่านสาขาและผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์
ธนาคารกรุงเทพ ร่วมโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" เพื่อให้ความช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและ SMEs เฉพาะกลุ่ม
คุณสู้ เราช่วย" ประกอบด้วย 2 มาตรการ ได้แก่
มาตรการที่ 1 “จ่ายตรง คงทรัพย์” ช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อบ้าน รถ และ SMEs ขนาดเล็กที่มีวงเงินไม่สูงมาก ให้เข้ามาปรับโครงสร้างหนี้แบบลดค่างวดและพักภาระดอกเบี้ยเป็นระยะเวลา 3 ปี
มาตรการที่ 2 "จ่าย ปิด จบ" ช่วยลดภาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้บุคคลธรรมดาที่เป็นหนี้เสีย (สถานะ NPL) แต่มียอดคงค้างหนี้ไม่สูง (ไม่เกิน 5,000 บาท)
ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถลงทะเบียนได้ฟรีผ่านเว็บไซต์ www.bot.or.th/khunsoo โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือต้องชำระค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น การลงทะเบียนจะเปิดให้ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2567 ถึง 28 กุมภาพันธ์ 2568 โดยธนาคารจะเริ่มติดต่อผู้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2568 เป็นต้นไป
ระหว่างที่รอผลการลงทะเบียน ธนาคารแนะนำให้ลูกค้ายังคงชำระหนี้ตามปกติเพื่อรักษาประวัติการชำระหนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อ Call Center ของแต่ละธนาคาร ได้แก่
โครงการนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของภาครัฐและเอกชนในการร่วมมือแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนที่เรื้อรังและยืดเยื้อ การสร้างระบบสนับสนุนที่แข็งแกร่งและการให้โอกาสลูกหนี้กลับมาฟื้นตัว จะช่วยสร้างเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนสำหรับประเทศในระยะยาว
ที่มาข้อมูล : ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงเทพ