นายกฯ ประกาศ 4 ยุทธศาสตร์และ2 จุดแข็ง ยกระดับไทยสู่เวทีโลกยุคใหม่

20 ธ.ค. 2567 | 00:49 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ธ.ค. 2567 | 01:04 น.

นายกฯแพทองธาร ชินวัตร ประกาศ 4 ยุทธศาสตร์ และย้ำ 2 จุดแข็งไทยด้านทำเลยุทธศาสตร์-วัฒนธรรม พร้อมใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ปูทางสู่ความมั่งคั่งในเวทีโลกยุคใหม่

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงาน Bangkok Post Forum 2024 เนื่องในโอกาสครบรอบ 78 ปีของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ช่วงค่ำวันที่ 19 ธันวาคม 2567

พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ "Redefine Thailand: The Road to Prosperity" โดยเน้นย้ำถึงศักยภาพที่โดดเด่นของประเทศไทย และความสำคัญของการนำจุดแข็งมาใช้ควบคู่กับเทคโนโลยี เพื่อสร้างอนาคตที่รุ่งเรืองและยั่งยืน

นายกฯ ประกาศ 4 ยุทธศาสตร์และ2 จุดแข็ง ยกระดับไทยสู่เวทีโลกยุคใหม่

นายกรัฐมนตรี เปิดปาฐกถาถึงความท้าทายของโลกในยุคปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งการพึ่งพากลยุทธ์ดั้งเดิม เช่น การผลิตจำนวนมากหรืออุตสาหกรรมหนัก อาจไม่สามารถตอบสนองต่อพลวัตของเศรษฐกิจโลกได้อีกต่อไป

"ประเทศไทยจำเป็นต้องค้นหาแนวทางใหม่ที่ไม่เพียงแต่จะนำพาประเทศให้เจริญรุ่งเรือง แต่ยังช่วยสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลกยุคใหม่ ซึ่งเต็มไปด้วยความเชื่อมโยงและความซับซ้อน" นายกรัฐมนตรีกล่าว

นายกฯ ประกาศ 4 ยุทธศาสตร์และ2 จุดแข็ง ยกระดับไทยสู่เวทีโลกยุคใหม่

2 จุดแข็งของประเทศไทย: เสาหลักแห่งความก้าวหน้า

 

1. ทำเลที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์

นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ไทยมีข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ที่ตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเหมาะสมที่สุดในการเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และการค้าในภูมิภาค การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟความเร็วสูง ศูนย์กลางการบิน และเครือข่ายห่วงโซ่ความเย็น (Cold-Chain Network)

จะช่วยเสริมสร้างบทบาทของไทยในการเป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญระหว่างภูมิภาคอาเซียนและโลก นอกจากนี้ ไทยยังสามารถเป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตก ส่งเสริมความร่วมมือระดับโลกในยุคที่ความแตกแยกเพิ่มสูงขึ้น

 

2. ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลาย

ประเทศไทยเป็นที่รู้จักในฐานะ "ครัวโลก" ด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางการเกษตรและความเชี่ยวชาญด้านการทำอาหาร นายกรัฐมนตรีมองว่า ถึงเวลาแล้วที่ไทยจะยกระดับจากการทำเกษตรกรรมแบบดั้งเดิมไปสู่เกษตรกรรมสมัยใหม่ที่เน้นคุณภาพ ความยั่งยืน และนวัตกรรม

นายกฯ ประกาศ 4 ยุทธศาสตร์และ2 จุดแข็ง ยกระดับไทยสู่เวทีโลกยุคใหม่

ในด้านการท่องเที่ยว ไทยมีศักยภาพที่จะเป็นมากกว่าจุดหมายปลายทางด้านการพักผ่อน นายกรัฐมนตรีมองว่า ด้วยชื่อเสียงด้านการบริการและมรดกทางวัฒนธรรม ไทยสามารถกลายเป็นจุดหมายสำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพที่โดดเด่น และยังตอบโจทย์กลุ่ม Digital Nomad และผู้เกษียณอายุที่มองหาสถานที่ที่ผสมผสานความสงบและความสะดวกสบาย

 

การผสานเทคโนโลยีเพื่ออนาคตไทย

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประเทศไทยต้องนำเทคโนโลยีมาผสานกับจุดแข็งที่มีอยู่ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคล รวมถึงลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล เช่น ศูนย์ข้อมูล (Data Centers) และระบบคลาวด์ เพื่อสร้างงาน ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญจากทั่วโลก

และเตรียมพร้อมบุคลากรไทยในสาขาเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น AI, Cloud Computing และความมั่นคงทางไซเบอร์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมและเศรษฐกิจไทยในอนาคต

นายกฯ ประกาศ 4 ยุทธศาสตร์และ2 จุดแข็ง ยกระดับไทยสู่เวทีโลกยุคใหม่

4 ยุทธศาสตร์หลัก: เส้นทางสู่ความสำเร็จ

 

1.การปฏิรูปกฎหมาย – รัฐบาลจะเร่งปรับปรุงกฎระเบียบเพื่อให้ไทยเป็นสถานที่ที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ เช่น การลดขั้นตอนการต่ออายุใบอนุญาต และการบูรณาการระบบดิจิทัลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

2.พัฒนาทุนมนุษย์ – โครงการ One Family, One Soft Power จะช่วยส่งเสริมความสามารถด้านวัฒนธรรมและความคิดสร้างสรรค์ พร้อมกับการฟื้นโครงการ One District, One Scholarship (ODOS) เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาในต่างประเทศ

3.การสนับสนุนด้านการเงิน – เพิ่มเงินทุนสำหรับสตาร์ทอัพและนวัตกรรม โดยมุ่งเน้นโครงการที่มีศักยภาพสูง พร้อมปรับปรุงการจัดสรรเงินทุนด้านการวิจัย

4.มาตรฐานระดับโลก – รัฐบาลจะยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการไทย เช่น การนำการรับรองระดับสากลมาช่วยผลักดันสินค้าส่งออกให้คงสถานะพรีเมียมในตลาดโลก

นายกฯ ประกาศ 4 ยุทธศาสตร์และ2 จุดแข็ง ยกระดับไทยสู่เวทีโลกยุคใหม่

Thailand’s Next Chapter: บทต่อไปที่ทุกคนมีส่วนร่วม

นายกรัฐมนตรี ย้ำในตอนท้ายว่า การเปลี่ยนวิสัยทัศน์ข้างต้นให้เป็นความจริงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งประชาชน ชุมชน และภาคธุรกิจ โดยทั้งหมดนี้จะสร้างประเทศไทยให้เป็นประเทศแห่งโอกาส ความยืดหยุ่น และนวัตกรรม พร้อมเชิญชวนทุกคนมาร่วมเดินทางสู่บทต่อไปที่เต็มไปด้วยความมั่งคั่งและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน