นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ภาพรวมการยื่นแบบภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภ.ง.ด. 90/91 ในปีภาษี 2567 ได้เปิดให้ยื่นแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.68 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันผู้มีเงินได้ยื่นแบบแล้ว 1 แสนราย ขณะที่การยื่นแบบในปีภาษี 2566 ที่ผ่านมา ผู้มีเงินได้ยื่นแบบทั้งหมด 11 ล้านคน โดยขอคืนภาษี 4 ล้านคน
ทั้งนี้ ปีนี้กรมได้เพิ่มการอำนวยความสะดวกในการยื่นและคืนภาษี หากข้อมูลถูกต้องจะได้รับเงินคืนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ใน 2-3 วันสำหรับผู้มีภาษีต้องชำระตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป สามารถขอผ่อนชำระภาษีได้ 3 งวด
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ กรมได้มุ่งขยายฐานภาษี โดยเน้นไปยังหาผู้ขายสินค้าออนไลน์ เมื่อมีรายได้ถึงเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด มีหน้าที่ยื่นแบบฯ ตลอดจนกลุ่มที่มีรายได้ที่ไม่ใช่เงินเดือน หรือประกอบอาชีพอิสระ เช่น กลุ่มค้าขายแบบซื้อมาขายไป กลุ่มอินฟูลเอนเซอร์ โดยได้เข้าไปให้ความรู้ และมีการประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มดังกล่าวรับทราบมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ กรมได้ใช้ระบบเทคโนโลยีเข้ามาตรวจจับข้อมูลของกลุ่มดังกล่าวด้วย ฉะนั้น จึงขอให้มายื่นไว้ก่อนถูกผิดไม่เป็นไร สามารถแก้ไขได้ อย่างไรก็ตาม หากพบว่าไม่มายื่นแบบตามกำหนด และตรวจพบทีหลังก็จะมีบทลงโทษตามกฎหมาย ทั้งทางแพ่ง และอาญา
“โทษทางแพ่งจะต้องเสียเบี้ยปรับเงินเพิ่มตามกฎหมาย กรณีเบี้ยปรับต้องเสีย 2 เท่าของภาระภาษี บวกเงินเพิ่มอีก 1.5%ต่อเดือน หรือ 18% ต่อปี ส่วนกรณีที่ยื่นเอกสารเป็นเท็จ หรือใช้ใบกำกับภาษีปลอมจะมีโทษทางอาญา จำคุกสูงสุด 7 ปี”
ขณะที่การจัดเก็บรายได้ของกรม ในปีงบประมาณ 2568 นั้น กรมได้รับเป้าหมายการจัดเก็บภาษีปี 68 ตามเอกสารงบประมาณที่ 2.37 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นราว 5% โดยยอดการจัดเก็บรายได้รอบ 3 เดือนแรกของปีงบ 68 กรมจัดเก็บได้ 4.7แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 4,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นผลจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ Vat ในประเทศที่ดีขึ้น แต่ภาษีนำเข้าลดลง 2,000 ล้านบาท และการจัดเก็บภาษีภ.ง.ด.51 หรือภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี ลดลง 4,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่ายอดการจัดเก็บรายได้ใน 6 เดือนแรกหรือจนถึงเดือนเม.ย.นี้ จะทำได้เกินเป้าหมาย และจะพยายามผลักดันให้ทั้งปีเป็นไปตามเป้า
“ช่วงครึ่งปีหลังจะเผชิญความท้าทาย เพราะต้องจับตาดูการยื่นแบบภาษีนิติบุคคลว่าจะทำได้ตามเป้าหมายแค่ไหน เนื่องจากการเก็บภาษีจะยึดจากผลประกอบการเมื่อปีทีแล้ว ซึ่งภาวะเศรษฐกิจในช่วงนั้นยังไม่ค่อยขยายตัวได้มากนัก จึงต้องดูว่าจะกระทบการยื่นรายได้หรือไม่ อย่างไรก็ดี ขณะนี้กรมได้สั่งให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องทำแผน และคอยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดแล้ว”