ปิดดีล กลุ่มเซ็นทรัล ซื้อกิจการห้างหรูกลุ่มเซลฟริดเจส 18 สาขาในยุโรป

18 ส.ค. 2565 | 14:30 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ส.ค. 2565 | 21:32 น.

กลุ่มเซ็นทรัลจับมือซิกน่า ปิดดีลเข้าซื้อกิจการ Selfridges Group เข้าบริหารห้างหรู 4 แบรนด์ 18 แห่งในทวีปยุโรป

หลังกลุ่มเซ็นทรัลประกาศลงนามในสัญญาเพื่อเข้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้ากลุ่มเซลฟริดเจส (Selfridges Group) เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2564 โดยการลงทุนในครั้งนี้จะทำให้กลุ่มเซ็นทรัลก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจห้างสรรพสินค้าลักชัวรี่ระดับโลก ครอบคลุม 8 ประเทศในทวีปยุโรป รวมถึงแฟลกชิปสโตร์บนทำเลที่ดีที่สุดของเมืองต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้างสรรพสินค้า เซลฟริดเจส (Selfridges) บนถนนออกซ์ฟอร์ดใจกลางกรุงลอนดอน ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการช้อปปิ้งอันดับ 1

 

นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล และนายดีเทอร์ เบอร์นิงเฮาส์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มซิกน่า ประธานร่วมของกลุ่มเซลฟริดเจส ร่วมกันกล่าวว่า กลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่า มีพันธมิตรที่แข็งแกร่งและมีการวางแผนการลงทุนทางธุรกิจในระยะยาว เรามีวิสัยทัศน์ที่จะพลิกโฉมและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้กับธุรกิจลักชัวรี่รีเทล

ทศ จิราธิวัฒน์

ตั้งเป้าที่จะสร้างประสบการณ์แบบออมนิแชแนลระดับโลก ที่พร้อมให้บริการลูกค้าของเราทุกคนผ่านช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เรารู้สึกยินดีและตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง ที่จะได้ทำงานร่วมกันกับทีมงานใหม่ และแบรนด์ต่างๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายครั้งนี้ไปด้วยกัน

ห้างสรรพสินค้า เซลฟริดเจส ในประเทศอังกฤษ

สำหรับกลุ่มเซลฟริดเจส ประกอบไปด้วยห้างสรรพสินค้ารวมทั้งหมด 18 แห่ง ภายใต้ 4 แบรนด์ ใน 3 ประเทศ ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า เซลฟริดเจส ในประเทศอังกฤษ, ห้างสรรพสินค้า บราวน์ โธมัส (Brown Thomas) และ อาร์นอตส์ (Arnotts) ในประเทศไอร์แลนด์ และห้างสรรพสินค้า ดี แบนคอร์ฟ (de Bijenkorf) ในประเทศเนเธอร์แลนด์

 

และยังเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอันโดดเด่น ซึ่งดึงดูดลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัลได้กว่า 30 ล้านคนต่อเดือน และมีการจัดส่งสินค้าไปยังกว่า 130 ประเทศทั่วโลก ทั้งนี้ กิจการของกลุ่มเซลฟริดเจสจะถูกนำเข้ามารวมและเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่าในยุโรป ที่ปัจจุบันมีห้างสรรพสินค้าลักชัวรี่ทั้งหมดถึง 22 แห่ง

ห้างสรรพสินค้า บราวน์ โธมัส (Brown Thomas)

ประกอบไปด้วย ห้างสรรพสินค้าที่ดำเนินธุรกิจภายใต้กลุ่มเซ็นทรัล ได้แก่ รีนาเชนเต ในประเทศอิตาลี และ อิลลุม ในประเทศเดนมาร์ก และห้างสรรพสินค้าที่ดำเนินธุรกิจภายใต้ความร่วมมือระหว่างกลุ่มเซ็นทรัล และ ซิกน่า ได้แก่ คาเดเว, โอเบอร์โพลลิงเกอร์ และ อัลสแตร์เฮาส์ ในประเทศเยอรมนี, โกลบุส ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และยังมี โปรเจกต์ใหม่ที่จะสร้างแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้อีก 2 แห่ง ในเมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี และในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย 

ห้างสรรพสินค้าอาร์นอตส์ (Arnotts)

โดยนายสเตฟาโน่ เดลลา วาลเล่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้าลักชัวรี่ของเซ็นทรัลและซิกน่าในยุโรป จะขยายบทบาทและรับช่วงต่อการนำทัพกลุ่มเซลฟริดเจสจาก แอนน์ พิชเชอร์ กรรมการผู้จัดการของกลุ่มเซลฟริดเจส ซึ่งจะยังคงดำรงตำแหน่งในทีมบริหารของบริษัทจนถึงปลายปีนี้ เพื่อดูแลการถ่ายทอดและส่งต่อธุรกิจอย่างราบรื่นไปยังทีมบริหารใหม่

 

 

อย่างไรก็ดี ความร่วมมือของกลุ่มเซ็นทรัลและซิกน่าในการเข้าซื้อกิจการกลุ่มเซลฟริดเจส ต่อยอดและเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำของกลุ่มห้างสรรพสินค้าและอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก

ห้างสรรพสินค้า ดี แบนคอร์ฟ (de Bijenkorf)

ทั้งนี้กลุ่มเซ็นทรัลได้มีการดำเนินการขยายธุรกิจในภูมิภาคยุโรปดังนี้

• ปี 2554  เริ่มขยายธุรกิจไปยุโรปจากการเข้าซื้อกิจการห้างรีนาเชนเต ประเทศอิตาลี

• ปี 2556 เข้าซื้อกิจการห้างอิลลุม ประเทศเดนมาร์ก

• ปี 2558 เข้าซื้อกิจการห้างกลุ่มคาเดเว ประเทศเยอรมนี ด้วยการร่วมทุนกับซิกน่า

• ปี 2563 เข้าซื้อกิจการห้างโกลบุส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ด้วยการร่วมทุนกับซิกน่า

อีกทั้งยังมีการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ในยุโรปอีกด้วย การลงทุนทั้งหมดนี้ทำให้ยุโรปเป็นตลาดหลักและตลาดสำคัญของกลุ่มเซ็นทรัล โดยมีผู้บริหารระดับสูงประจำอยู่หลายแห่งในทวีปยุโรป รวมทั้งที่กรุงลอนดอน