นางสาววิลาสินี ภาณุรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บาจา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมรองเท้าในประเทศ ที่มีมูลค่าประมาณ 83,000 ล้านบาท กลับมาขยายตัวไม่ต่ำกว่า 20% เนื่องจากมาตรการผ่อนคลายจากสถานการณ์โควิดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคกลับมาใช้เงินจับจ่ายซื้อของ
โดยเฉพาะรองเท้า ซึ่งถือเป็นสินค้าที่ผู้บริโภคซื้อน้อยมากช่วงก่อนหน้านี้ เมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ เริ่มกลับมา โรงเรียนเปิดเรียนตามปกติ ยอดซื้อรองเท้าจึงกลับมาเติบโตสูงมากเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา สำหรับกลุ่มบาจา ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ยอดขายเพิ่มขึ้น 67% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
“แนวโน้มตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าแฟชั่น รองเท้า กระเป๋า ที่กำลังซื้อกลับมาเติบโตสูง จากการผ่อนคลายของสถานการณ์โควิด ทำให้คนเริ่มกลับมาทำกิจกรรมตามปกติ ต้องเข้าสังคม ไปทำงาน กำลังซื้อที่อัดอั้นในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมาจึงกลับมา และเป็นโอกาสดีที่บาจาจะเร่งขยายตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนใหม่ ๆ มากขึ้น”
จากทิศทางการตลาดที่มีแนวโน้มดีขึ้น ทำให้บาจามีความมั่นใจในการนำสินค้าใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาดได้อย่างเต็มที่ โดยในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 บาจาเตรียมทำการตลาดเชิงรุก โดยใช้งบประมาณการตลาดเพิ่มขึ้น 4 เท่า พร้อมเปิดตัว “เบลล่า-ราณี แคมเปน” เป็นแอมบาสเดอร์คนแรก และ “ลี ฐานัฐพ์ โล่คุณสมบัติ” Friend of Bata กับแคมเปญ Surprisingly Bata เพื่อตอกย้ำแบรนด์ดีเอ็นเอของบาจา
ที่เน้นความสบายอย่างมีสไตล์ Style with Comfort พร้อมสื่อสารไปถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือคนที่ไม่เคยสวมใส่บาจามาก่อน ครอบคลุมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายของบาจา ทั้งรองเท้าสำหรับใส่ในชีวิตประจำวัน รองเท้าทำงาน รองเท้าสำหรับไปงานในโอกาสต่าง ๆ ตลอดจนรองเท้ากีฬา ที่สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ทุกการใช้ชีวิตของผู้บริโภคได้อย่างครบถ้วน
“เบลล่า ราณี และลี ฐานัฐพ์ เป็นตัวแทนของผู้หญิง และผู้ชายในแบบบาจา ที่สวย มีสไตล์ ตลอดจนมีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่มีความเคลื่อนไหว ไม่หยุดนิ่ง พร้อมทำกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดเวลา ช่วยสะท้อนแบรนด์ดีเอ็นเอของบาจาที่ว่า Style with Comfort สบายอย่างมีสไตล์ เพื่อสื่อสารไปถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ ให้หันมาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของบาจาในทุกโอกาส ทุกช่วงของชีวิต”
ปัจจุบัน บาจามีช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าหลายช่องทางคอยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นทั้งร้านค้าอย่างเป็นทางการกว่า 230 ร้าน ร้านแฟรนไชส์ 6 ร้าน เว็บไซต์ bata.co.th รวมไปถึงร้านค้าอย่างเป็นทางการของทางบาจาเองบนแพลทฟอร์มช็อปปิ้งออนไลน์ชื่อดังอย่าง Lazada และ Shopee
นอกจากนี้บาจาคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถเติบโตขึ้นได้ถึง 65% และสามารถทำผลกำไรได้สูงกว่าก่อนโควิดอีกด้วย พร้อมต้ั้งเป้าขยายฐานลูกค้าใหม่ แต่ยังคงสามารถรักษาลูกค้าเดิมไว้ได้ เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในวงการอุตสาหกรรมรองเท้าในประเทศไทย