ตลาดทีวี 65 พุ่งแรง LG ขยายขยายไลน์อัพ OLED - QNED รับดีมานด์ปลายปี

แอลจี  ตอกย้ำสถานะผู้นำตลาดทีวีพรีเมียม เปิดตัวนวัตกรรมทีวีใหม่ล่าสุดประจำปี 2565 มุ่งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งการรับชมภาพยนตร์ เล่นเกม การใช้งานฟังก์ชันอันชาญฉลาด และดีไซน์เทียบงานศิลปะ พร้อมนำทีวีระดับเรือธงอย่าง LG SIGNATURE OLED 8K ซีรีส์ Z2 ขนาด 88 นิ้ว

และเอาใจผู้ที่ต้องการรับชมภาพเนื้อหาคมชัดสูงด้วยการเพิ่มตัวเลือกด้วยขนาด 77 นิ้ว สำหรับ LG OLED 8K ซีรีส์ Z2 พร้อมเติมเต็มไลน์อัพด้วย LG OLED evo 4K ซีรีส์ G2, C2 และ LG OLED 4K ซีรีส์ B2 และ A2 รวมทั้งหมด 5 ซีรีส์มีขนาดหลากหลายยิ่งขึ้น ตั้งแต่ 42 นิ้วไปจนถึง 83 นิ้ว โดยขนาดใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้ ได้แก่ 42 นิ้ว และ 83 นิ้ว ราคา OLED TV เริ่มต้นที่ 42,990 บาท

อำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “แอลจีเล็งเห็นศักยภาพของตลาดทีวีพรีเมียมในไทยที่ยังคงขยายตัวนับตั้งแต่ต้นปี 2564 ซึ่ง OLED TV ของเรายังคงครองตำแหน่งผู้นำในตลาดทีวีพรีเมียมต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 และด้วยความเข้าใจในกลุ่มผู้บริโภคของตลาดดังกล่าวซึ่งให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีการนำเสนอภาพที่มีประสิทธิภาพสูง จึงนำเสนอตัวเลือกทีวีที่หลากหลายทั้งด้านเทคโนโลยี ดีไซน์ ขนาด และราคาตอบรับผู้ใช้งานในทุกกลุ่ม

สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 แอลจีคาดว่าความต้องการซื้อทีวีกลุ่มพรีเมียมจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการรอคอยศึกฟุตบอลโลกฟีฟ่า เวิลด์คัพ 2022 ที่กำลังจะมาถึง รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของผู้ให้บริการสตรีมมิ่งคอนเทนต์ซึ่งสอดรับกับพฤติกรรมของผู้ชมในไทย โดยแอลจีตั้งเป้าเพิ่มยอดขายในกลุ่มทีวี OLED อีก 2 เท่า และจะขยายส่วนแบ่งตลาดของแอลจีในตลาดทีวีถึง 23%”

โดย ปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นยอดขายทีวี มาจาก

• การปรับตัวช่วงวิกฤตโควิด19 เศรษฐกิจเริ่มกลับมาคึกคักขึ้น 
• ถึงรอบการเปลี่ยน หรืออัปเกรดรุ่นใหม่ 
• มองหาการใช้งานทีวีที่หลากหลายและเหนือกว่าแค่รับชมปกติ 
• เทรนด์การตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลกลับมาได้รับความนิยม 
• การแข่งขันของฟุตบอลระดับโลก (World cup) ช่วงปลายปี

"ปัจจัยต่างๆที่เป็นปัจจัยบวกที่จะทำให้คาดการณ์ได้ว่าปีนี้ตลาดทีวีจะเป็นตลาดที่บวกแน่นอน อย่างแรกคือโควิดน่าจะเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคยกันแล้วเศรษฐกิจต่างๆจะพัฒนามากขึ้นและจะทำแต่ให้ตลาดกลับมาคึกคัก ซึ่งตอนนี้เราเริ่มเห็นแนวโน้มที่ดีโดยเฉพาะในเมืองท่องเที่ยวกำลังฟื้นกลับเข้ามาพนักงานขายก็เพิ่มจำนวนมากขึ้น

และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือเทคโนโลยีที่ดีกว่าเข้ามามากมายนอกจากนี้คนก็ยังต้องการทีวีที่เป็นมากกว่าทีวี เช่นเล่นเกมหรือว่าใช้ประชุมออนไลน์ได้ และทีวีรุ่นใหม่ๆที่ออกมามีดีไซน์ที่เหมาะสมกับการแต่งบ้านและปัจจัยสุดท้ายปีนี้มีฟุตบอลโลกรออยู่ช่วงสิ้นปี ซึ่งจะทำให้มี demandเพิ่มขึ้นมาในช่วงบอลโลกเราจึงมั่นใจว่าตลอดจะเติบโตมากขึ้น"

 

นอกจากนี้  แอลจี ยังเซ็ทเป้าหมายปี 2022 ใน 5 ด้านได้แก่

• Display สินค้าระดับพรีเมี่ยมเพิ่มมากขึ้น และครอบคลุมทั่วประเทศ OLED 1,000 เครื่อง QNED 1,200 เครื่อง และทีวีขนาด 70” ขึ้นไป 1,000 เครื่อง 
• ตั้งเป้ายอดขาย OLED TV ในปี 2022 จํานวน 19,000 เครื่อง หรือ 800 ล้านบาท 
• มีส่วนแบ่งของตลาดที่ 80% ครองอันดับที่ 1 ในประเทศไทย 10 ปี ติดต่อกัน 
• ส่วนแบ่งของตลาดทีวีขนาด 70” ขึ้นไป ครองส่วนแบ่งที่ 35 % 
• ส่วนแบ่งของตลาดทีวีภาพรวมทั้งหมด 23% และยอดขายโตขึ้น 10%"

 

"เรามีเป้าหมายชัดเจนในปีนี้ ว่าเราจะขยับตัวอย่างไรบ้างอย่างแรกคือการDisplayสินค้าหรือการจัดแสดงสินค้าเราต้องการที่จะโชว์ OLED ทั่วประเทศไทยให้ได้อย่างน้อยใน 1000 เครื่องในร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของเราทั้งหมด ขณะที่QNEDจะต้องDisplay ให้ได้มากกว่า 1,200 เครื่องและทัวี 70 นิ้วขึ้นไปเราจะต้องโชว์ให้ได้มากกว่า 1000 เครื่องเช่นเดียวกัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มาซึ่ง LG QNED TV จะต้องรักษายอดขายอันดับ 1 เหมือนเดิม

 

แต่เราจะต้องมีการ market share สูงถึง 80% เพราะฉะนั้นไซส์ต่างๆที่เราเตรียมมาแล้วน่าจะทำให้ market share ปัจจุบันที่มีอยู่ 76% ขึ้นมาแตะ 80% ได้ และเราจะกลายเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย 10 ปีต่อเนื่องซึ่งเป็นแลนด์มาร์คที่อย่าง LG อยากจะสร้างไว้ 

นอกจากนี้ตลาดทีวีขนาดใหญ่หรือ 70 นิ้วขึ้นไปเราต้องการครองส่วนแบ่งตลาดให้ได้ 35% เพราะไลน์ที่เรามีเข้ามาในปีนี้เรามีรุ่นใหม่ 67 รุ่นและเป็นรุ่น 70 นิ้วขึ้นไปถึง 23 รุ่นด้วยกัน และความท้าทายใหญ่ของเราก็คือภาพองค์รวมของตลาดทีวีเราจะต้องการที่จะเติบโตจากปีที่แล้วที่อยู่ที่ 20.9% ขึ้นมาเป็น 23% และเราจะเติบโตประมาณ 40% ซึ่งจากกลยุทธ์ต่างๆที่เราได้เตรียมทั้ง OLED TV รวมถึงQNED TV และ TV ไซส์ใหญ่ก็จะช่วยผลักดันให้เราไปถึงเป้าหมายได้"